มว.จับมือรพ.จุฬาฯและม.ศิลปากรพัฒนานวัตกรรมรักษาโรคผิวหนังด้วยรังสียูวี

ข่าวทั่วไป Tuesday February 9, 2021 09:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

มว.จับมือรพ.จุฬาฯและม.ศิลปากรพัฒนานวัตกรรมรักษาโรคผิวหนังด้วยรังสียูวี

ฝ่ายมาตรวิทยาอุณหภูมิและแสง สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ (มว.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมมือกับหน่วยผิวหนัง ฝ่ายอายุรศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ร่วมกันวิจัยเพื่อพัฒนาต้นแบบและวิธีการสอบเทียบมาตรรังสียูวี สำหรับการวัดรังสียูวีจากแสงอาทิตย์ เพื่อใช้ในการประเมินประสิทธิภาพสำหรับการรักษาโรคสะเก็ดเงินด้วยรังสียูวีจากแสงอาทิตย์ โดยมุ่งเน้นการรักษาที่มีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่เกิดจากการรักษาด้วยยา ลดความแออัดของจำนวนผู้มารับการรักษาในโรงพยาบาล ตลอดจนภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางผู้ป่วย

ที่ผ่านมา คณะนักวิจัย จากฝ่ายอายุรศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ได้ริเริ่มงานวิจัยเพื่อทดลองใช้แสงอาทิตย์ในการรักษาโรคสะเก็ดเงิน (Helio-therapy for anti-psoriasis treatment) ซึ่งจำเป็นต้องใช้มาตรรังสียูวี (UV meter) ในการตรวจวัดเพื่อหาค่าความรับรังสีที่มีประสิทธิผลต่อการรักษาโรคสะเก็ดเงิน (Anti-psoriasis effective UV irradiance measurement) ดังนั้นจึงได้เข้าหารือกับนักวิจัยจากฝ่ายมาตรวิทยาอุณหภูมิและแสง (มว.) เพื่อดำเนินการวิจัยร่วมกันโดยนำองค์ความรู้ด้านมาตรวิทยาสร้าง "นวัตกรรมต้นแบบมาตรวัดรังสียูวี" เพื่อตอบโจทย์ในการแก้ไขปัญหาหรือข้อจำกัดที่มีมาก่อนหน้านั้น โดยทีมวิจัยจากทั้ง 3 หน่วยงานได้ร่วมกันออกแบบฟังก์ชั่นการทำงานของเครื่องเพื่อให้ครอบคลุมและเหมาะสมกับวิธีการรักษา

อย่างไรก็ตาม เครื่องต้นแบบมาตรวัดรังสียูวียังอยู่ในช่วงของการพัฒนาเพื่อให้มีประสิทธิภาพ และสะดวกกับการใช้งาน ทาง มว. ได้มีแผนพัฒนาเครื่องต้นแบบดังกล่าวให้ทันสมัยยิ่งขึ้น โดยการเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ประมวลผลให้สามารถส่งข้อมูลการวัดแบบไร้สาย (Wireless transfer data) ผ่านระบบ Wi-Fi เพื่อนำข้อมูลขึ้นเว็บไซต์อย่างทันท่วงที (Semi-real time) ซึ่งจะทำให้แพทย์ ผู้ป่วยหรือประชาชน หรือนักวิจัย สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ทันที

ในอนาคตจะมีการประยุกต์ใช้เครื่องต้นแบบมาตรวัดยูวีมาเป็นอุปกรณ์ที่ผู้ป่วยสามารถนำมาใช้ในการติดตามค่าความรับรังสียูวี เพื่อทำการรักษาโรคสะเก็ดเงินด้วยตัวเองที่บ้านได้ ซึ่งจะช่วยลดความแออัดของพื้นที่ในโรงพยาบาล ลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาตลอดจนค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการเดินทางไปโรงพยาบาล แต่ทั้งนี้ยังคงต้องอยู่ภายใต้ขอบเขตการวางแผนรักษาและการให้คำแนะนำในการรักษาโดยแพทย์ผิวหนังที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ