มวลชนราษฎรเริ่มทยอยเข้ามารวมตัวหนาแน่นบริเวณสกายวอล์คกลางแยกปทุมวัน ส่วนหนึ่งได้เริ่มร้องเพลงและนำภาชนะต่าง ๆ ออกมาเคาะป็นจังหวะ ตามเวลานัดหมายของแกนนำ 16.00 น.เพื่อจัดกิจกรรม "รวมพลคนไม่มีจะกิน ตีหม้อไล่เผด็จการ" หลังศาลฝากขัง 4 แกนนำคณะราษฎรจากเหตุการณ์ชุมนุมที่สนามหลวงปลายปี 63 ขณะที่เจ้าหน้าที่ประกาศผ่านรถขยายเสียงให้ยุติการชุมนุมเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น.
ล่าสุดนายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ ระยอง ได้ประกาศให้ผู้ชุมนุมย้ายจากสกายวอล์ค ลงมาชุมนุมบริเวณด้านล่าง เนื่องจากเห็นว่าบนสกายวอล์คไม่เป็นชัยภูมิที่ปลอดภัย ซึ่งทำให้ขณะนี้ผู้ชุมนุมได้เริ่มทยอยเดินลงมาชุมนุมอยู่บริเวณหน้าหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพแล้ว และมีความเป็นไปได้ว่าหากผู้ชุมนุมมีจำนวนมากขึ้นก็อาจจะย้ายลงสู่ถนนบริเวณสี่แยกปทุมวันได้
นายภาณุพงศ์ กล่าวว่า กลุ่มราษฎรยืนยันจะชุมนุมโดยสันติ และที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีใครติดเชื้อโควิดจากการเข้าร่วมชุมนุมทุกครั้งที่ผ่านมา ซึ่งกิจกรรมวันนี้จะตั้งเวทีให้แกนนำจะผลัดกันขึ้นปราศรัยชี้แจงปัญหาของประชาชน และเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ไข ไม่ใช่เอาเวลาไปเล่น Tiktok
จากกนั้นยังยืนยัน 3 ข้อเรียกร้องของกลุ่มราษฎร ไม่มีการเปลี่ยนแปลง รวมทั้งเรียกร้องให้มีการแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งจะมีกิจกรรมย้ำข้อเรียกร้องต่าง ๆ พร้อมจัดรูปแบบการเคลื่อนไหวแบบมาร้อมเผชิญหน้าด้วยสันติ ซึ่งยังไม่ทราบว่าจะลงถนนหรือไม่ ขึ้นกับเจ้าหน้าที่ว่าจะผลักดันผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่สกายวอล์คหรือไม่
ในส่วนของการชุมนุมวันนี้ที่เกิดขึ้นยังไม่มีการกำหนดเวลาที่จะสิ้นสุด ขอให้รอดูสถานการณ์ในลำดับต่อไปว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ยืนยันว่าจะไม่มีปักหลักค้างคืน และในวันพรุ่งนี้นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน จะเดินเท้าจากจังหวัดขอนแก่นมายังกรุงเทพฯเพื่อมาร่วมแสดงออกร่วมกับผู้ชุมนุมในกิจกรรมต่อไป ที่จะมีการจัดขึ้นในลำดับต่อไป
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งชายและหญิงเสริมกระจายกำลังกันเต็มพื้นที่รอบลานสกายวอล์คทั้ง 4 จุด โดยนำรั้วเหล็กมาตั้งด่านตรวจสกัดทุกด้าน เพื่อคัดกรองผู้เข้าชุมนุมไม่ให้มีการพกอาวุธหรือวัตถุอันตรายเข้ามา รวมทั้งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนพร้อมโล่เคลื่อนเข้ามาในสกายวอล์คด้วย
ฝั่งมวลชนเริ่มทยอยทำกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งเล่นดนตรีสด พร้องเพลง เคาะภาชนะ เมื่อแถวของเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินผ่านเพื่อเข้าดูแลความเรียบร้อยประจำจุดต่างๆ กลุ่มมวลชนได้ส่งเสียงโห่ร้อง และเคาะอุปกรณ์ที่เตรียมมา
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อยบริเวณการชุมนุม โดยกล่าวว่า มาตรการของเจ้าหน้าที่เป็นไปตามที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) แถลงไว้คือ ตำรวจมีความจำเป็นต้องจัดกำลังเข้ามาตรวจสอบ พร้อมเฝ้าระวังเหตุและดูแลความสงบเรียบร้อยของการจัดกิจกรรมของกลุ่มราษฎรในวันนี้ โดยใช้กำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยบริเวณโดยรอบพื้นที่การชุมนุมจำนวน 5 กองร้อย อย่างไรก็ดี กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมของสถานการณ์
"การจัดกำลังจะพิจารณาตามความเหมาะสมเพื่อรักษาความสงบ และปฏิบัติตามกฎหมาย เนื่องด้วยพื้นที่ที่จัดกิจกรรมมีการจราจรหนาแน่น ประชาชนมีการเดินทางสัญจรอยู่ตลอด และยังเป็นช่วงเร่งด่วน ดังนั้นจึงต้องมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาคอยรักษาความสงบและจัดการจราจรในพื้นที่ดังกล่าว" รองโฆษก ตร.กล่าว
พร้อมย้ำขอความร่วมมือกลุ่มมวลชนงดการรวมตัว เนื่องจากขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการบังคับใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.ควบคุมโรค จึงของให้มวลชนคำนึงถึงกฎหมาย กฎระเบียบ และข้อบังคับต่างๆ ด้วย
ส่วนที่มีการข่าวว่าผู้ชุมนุมอาจจะย้ายจากสกายวอล์คลงไปปิดการจราจรที่แยกปทุมวันนั้น พ.ต.อ.กฤษณะ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่มีการประเมินทางการข่าวอยู่แล้ว ทั้งนี้ ต้องขอความร่วมมือผู้มาชุมนุมไม่ให้ย้ายไปพื้นที่อื่น ขณะเดียวกันตำรวจก็มีแผนรับมือหากผู้ชุมนุมจะลงผิวถนนปิดการจราจร โดยจะแจ้งประชาสัมพันธ์ผู้ใช้รถใช้ถนนให้หลีกเลี่ยงเส้นทางโดยรอบ
ส่วนจุดคัดกรองนั้น เป็นการวางกำลังเพื่อดูแลความเรียบร้อยไม่ให้มีบุคคลที่ 3 เข้ามาสร้างสถานการณ์ ซึ่งที่ผ่านมา ตำรวจมีการจัดชุดเจ้าหน้าที่ไปเจรจากับแกนนำอยู่แล้ว เพราะตำรวจไม่อยากดำเนินคดีและไม่อยากบังคับใช้กฎหมายกับผู้ชุมนุม
ส่วนกระแสข่าวมีการเตรียมรถฉีดน้ำแรงดันสูงไว้นั้น พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า เป็นหนึ่งในขั้นตอนตามปกติในการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนจะใช้หรือไม่ใช้จะต้องพิจารณาจากสถานการณ์ว่าจะมีความจำเป็นหรือไม่ ไม่ได้หมายความว่านำเข้ามาแล้วจะต้องใช้ พร้อมขอย้ำว่าในปัจจุบัน การชุมนุมไม่สามารถทำได้เลย
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่าภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และในสนามกีฬาศุภชลาศัย เจ้าหน้าที่ได้นำรถฉีดน้ำ 3-4 คัน และรถบัสมาจอดสแตนบายประจำจุดต่าง ๆ