ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 72 ราย ประกอบด้วย ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 43 ราย จากสมุทรสาคร 27 ราย กรุงเทพมหานคร 6 ราย ปทุมธานี นครนายก พระนครศรีอยุธยา จังหวัดละ 2 ราย นครปฐม ตาก สมุทรสงคราม สระบุรี จังหวัดละ 1 ราย และจากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 20 ราย ส่วนใหญ่มาจากปทุมธานี 16 ราย สมุทรสาคร 3 ราย กรุงเทพมหานคร 1 ราย ส่วนผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าพักในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 9 ราย มาจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 2 ราย อินโดนีเซีย คูเวต สหรัฐอเมริกา ไนจีเรีย โอมาน รัสเซีย และบังกลาเทศ ประเทศละ 1 ราย
ทั้งนี้ จำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศล่าสุดอยู่ที่ 25,764 ราย แบ่งเป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ 8,539 ราย และการตรวจคัดกรองเชิงรุก 14,480 ราย ส่วนผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 2,745 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้ว 24,734 ราย เพิ่มขึ้น 192 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 83 ราย
พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศบค.กล่าวว่า ในส่วนผู้ติดเชื้อรายใหม่ของกรุงเทพมหานครมี 2 ราย ที่เป็นนักเรียนที่ไปเล่นฟุตซอลให้กับทีมของอำเภอเมืองสมุทสาคร โดยในทีมฟุตซอลดังกล่าว จากการตรวจเชื้อ 11 ราย พบว่าติดไปแล้ว 7 ราย ซึ่งนักเรียนทั้ง 2 คน ได้กลับมาทำกิจกรรมที่โรงเรียนในกรุงเทพมหานคร จึงทำให้ต้องมีการตรวจสอบอย่างใกล้ชิด และในพื้นที่ กทม. พบว่า มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงแล้ว 50 ราย ซึ่งอยู่ระหว่างรอยืนยันผล
ส่วนความคืบหน้าการค้นหาเชิงรุกในพื้นที่ตลาด ในจ.ปทุมธานีและพื้นที่ใกล้เคียง 11 แห่ง ตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ.-24 ก.พ. จำนวน 19,316 ราย พบผู้ติดเชื้อสะสม 498 ราย ซึ่งเป็นสิ่งที่ ศบค.ยังหนักใจ เนื่องจากพ่อค้าแม่ค้าและแรงงานยังคงต้องเดินทางข้ามจังหวัด และตลาดยังถือเป็นพื้นที่เสี่ยง
สำหรับ จ.สมุทรสาคร ในวันนี้ ศบค.ชุดเล็กได้ประชุมร่วมกับรองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งได้มีการรายงานผลการคัดกรองเชิงรุกในพื้นที่ต่างๆ ในช่วง 26 ธ.ค.-23 ก.พ. ใน 1,251 แห่ง รวม 99,760 ราย พบผู้ติดเชื้อ 898 ราย ไม่พบผู้ติดเชื้อ 98,819 ราย โดยเตรียมนำเสนอที่ประชุม ศบค.ให้มีการปลดล็อกจากพื้นที่สีแดงที่มีความเข้มงวดสูงสุด ปรับมาเป็นพื้นที่สีแดง ภายในวันที่ 1 มี.ค.นี้ เนื่องจากมีความเป็นห่วงภาพรวมเศรษฐกิจในจังหวัดและสถานศึกษาต่างๆ และในพื้นที่ตลาดกลางกุ้ง ซึ่งมีการปิดตลาดเกือบครบ 2 เดือนแล้ว ซึ่งทางคณะกรรมการพื้นที่มีการเฝ้าระวังและตรวจสอบอย่างใกล้ชิด และมีแนวโน้มว่าจะสามารถเปิดตลาดได้เร็วๆ นี้ อาจจะเป็นในวันที่ 1 มี.ค. นี้ รวมถึงได้มีการเตรียมการปรับการใช้สถานที่โรงพยาบาลสนามลดลง แต่ยังคงปรับให้สอดคล้องกับความจำเป็นและตามสถานการณ์
นอกจากนี้ รองผู้ว่าฯสมุทรสาคร ได้มีการรายงานแผนการกระจายวัคซีนในจังหวัดสมุทรสาคร เพราะถือเป็นจังหวัดล็อตแรกที่จะได้รับวัคซีน ซึ่งเตรียมฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) รวมถึงอาสมัครที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย และรายงานถึงความพร้อมในพื้นที่ที่จะมีการฉีดวัคซีน และจะปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดอย่างเคร่งครัด และขอความร่วมมือประชาชนศึกษาข้อมูลก่อนที่เข้ารับการฉีดวัคซีนอย่างเคร่งครัด เมื่อฉีดแล้วต้องนั่งพัก 30 นาที เพื่อสังเกตอาการว่าแพ้หรือไม่ และจะได้รับเอกสาร 2 ส่วน คือ 1.เอกสารสังเกตอาการข้างเคียงหลังจากฉีดวันแรก และ 2.เอกสารที่ต้องมีการมาฉีดซ้ำในโดสที่ 2 เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
นอกจากนี้ ในวันนี้ ศบค.ชุดเล็ก ได้ประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ซึ่งได้มีการนำเสนอโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการค้าตามแนวชายแดน แม่สอด เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการป้องกันโควิด เพิ่มความเข้มงวดในการคัดกรองบุคคลที่ข้ามแดนไปมา และจะพัฒนาเพื่อเป็นต้นแบบในการคัดกรองในพื้นที่อื่นๆ ด้วย
ทั้งนี้ แม้จังหวัดตากมีการตรวจพบผู้ติดเชื้อการคนงานขนส่งสินค้าระหว่างไทย-พม่า ซึ่งแม้อยู่ในช่วงโควิดแต่ยังมีความจำเป็นที่ต้องทำการค้าขาย ซึ่งมูลค้าการค้าจากเดิมที่อยู่ที่ประมาณ 8 หมื่นล้านบาท แต่ในช่วงโควิดมูลค่ายังสูงถึง 6 หมื่นล้านบาท จึงยังมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ
ขณะที่สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก มียอดผู้ติดเชื้อสะสมรวมทั้งสิ้น 113,094,441 ราย เสียชีวิตแล้ว 2,508,811 ราย โดยประเทศสหรัฐอเมริกา มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 28,974,623 ราย อันดับสอง อินเดีย 11,046,432 ราย อันดับสาม บราซิล 10,326,008 ราย อันดับสี่ รัสเซีย 4,200,902 ราย และอันดับห้า สหราชอาณาจักร 4,144,577 ราย โดยประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 114