นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข เปิดเผยถึงการเตรียมพร้อมรับการเปิดประเทศ ที่จะมีการเดินทางเข้าออกประเทศว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้หารือการจัดเอกสารรับรองการได้รับการฉีดวัคซีน ออกโดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เป็นเอกสารทางราชการที่แนบไปกับพาสปอร์ต เพื่อแสดงถึงความพร้อมของประเทศไทย ความปลอดภัยของประชาชนคนไทยที่ได้รับหนังสือรับรองการฉีดวัคซีน โดยในเรื่องนี้ จะเป็นไปตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อแห่งชาติ ซึ่งในวันจันทร์ที่ 8 มี.ค.นี้ จะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติต่อไป
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ประเทศไทยได้สั่งจองซื้อวัคซีนโควิด-19 จำนวน 63 ล้านโดส ขณะนี้ได้เริ่มฉีดวัคซีนโควิด 19 ที่ได้รับมาในระยะแรก ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา วัคซีนในส่วนที่เหลือจะถูกจัดส่งมายังจังหวัดต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยภายในเดือนพ.ค.-มิ.ย.64 จะมีวัคซีนที่ผลิตในประเทศมาฉีดให้กับประชาชนอย่างกว้างขวางต่อไป
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดความครอบคลุมในการให้วัคซีนกับประชาชนในประเทศ วันนี้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติงบประมาณ 6,387 บาท เพื่อจัดซื้อวัคซีนจากบริษัทแอสตร้าเซนเนกา จำนวน 35 ล้านโดส
"ถือเป็นเครื่องยืนยันว่า วัคซีนจะถูกจัดส่งให้กับพี่น้องประชาชนคนไทย อย่างครอบคลุมทั่วถึงแน่นอน นอกจากจะครอบคลุมพี่น้องประชาชนคนไทยแล้ว จะครอบคลุมให้กับทุกคนที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินนี้ให้มีความปลอดภัยทุกคน ตามหลักขององค์การอนามัยโลก ที่บอกว่าจะไม่มีใครปลอดภัยจนกว่าทุกคนปลอดภัย ถือเป็นหลักการที่กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการให้ทุกท่าน โดยเฉพาะคนไทยให้มีความปลอดภัย" นายอนุทินกล่าว