นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานการฉีดวัคซีนโควิด-19 ว่า ภาพรวมการรับวัคซีนตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. - 9 มี.ค.64 มีกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับวัคซีนไปแล้ว 29,900 คน คิดเป็น 34% ของจำนวนกลุ่มเป้าหมายที่จะรับวัคซีนในเบื้องต้น สำหรับการติดตามอาการไม่พึงประสงค์หลังได้รับวัคซีน มีการรายงานข้อมูลผ่าน Line Official Account หมอพร้อม แล้ว 2,380 ราย คิดเป็น 7.96% ซึ่งเป็นอาการข้างเคียงที่ไม่รุนแรง
"อาการไม่พึงประสงค์สามารถพบได้ 1 ใน 3 ของผู้ที่รับวัคซีน ซึ่งเป็นอาการที่ไม่รุนแรง สามารถกดรีพอร์ตเข้ามาได้จากระบบของหมอพร้อม" นพ.จักรรัฐกล่าว
ส่วนอาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรงหลังการได้รับวัคซีน เช่น แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก มีไข้สูง ปวดศรีษะรุนแรง มีผื่นขึ้นทั้งตัว มีจุดเลือดออกจำนวนมาก อาเจียนมากกว่า 5 ครั้ง ชัก หมดสติ ปากเบี้ยว กล้ามเนื้ออ่อนแรง ซึ่งเป็นอาการข้างเคียงที่ต้องเข้าเกณฑ์การสอบสวนโรคนั้น ขณะนี้ มีผู้ได้รับวัคซีนที่ต้องเข้าเกณฑ์การสอบสวนโรค รวม 5 ราย โดยใน 1 รายนี้ คณะผู้เชี่ยวชาญพิจารณาแล้วพบว่าอาจเกี่ยวข้องกับวัคซีน แต่ไม่ใช่การแพ้วัคซีนแบบรุนแรง ส่วนที่เหลืออีก 4 ราย รอเสนอให้คณะกรรมการพิจารณา อย่างไรก็ดี ทุกรายในขณะนี้สามารถกลับบ้านได้หมดแล้ว
นพ.จักรรัฐ ยังกล่าวถึงการดำเนินการเรื่องวัคซีนพาสปอร์ตว่า บุคคลที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว สามารถไปขอเอกสารรับรองการได้รับวัคซีนโควิด (Vaccine Certificate) ได้ และหากมีความประสงค์จะเดินทางไปต่างประเทศ ก็จะต้องนำเอกสารนี้ไปขอหนังสือรับรองการได้รับวัคซีนเพื่อการเดินทางไปต่างประเทศ (Vaccine Passport)
"วัคซีนพาสปอร์ต เป็นเอกสารรับรองว่าได้รับวัคซีนโควิดแล้วในประเทศไทย เมื่อฉีดครบตามจำนวน 2 โดสแล้ว จะขอรับใบรับรองการฉีดวัคซีน และเก็บใบนี้ไว้ เกิดวันไหนต้องไปต่างประเทศ ก็ไปขอเพิ่มเติมจากสถานพยาบาลใกล้บ้าน ในการขอเอกสารรับรองเป็นภาษาต่างประเทศ เป็นหนังสือรับรองการฉีดวัคซีนโควิดครบแล้ว เพื่อให้สามารถเดินทางไปต่างประเทศได้ ซึ่งเป็นสมุดเล่มสีเหลือง และอาจมีค่าใช้จ่ายบ้าง" นพ.จักรรัฐระบุ
ด้าน นพ.สุภโชค เวชภัณฑ์เภสัช ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และแผนงาน กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการดำเนินงานแอปพลิเคชัน "หมอพร้อม" กับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ว่า ใน Line Official Account "หมอพร้อม" นอกจากจะให้ข้อมูลด้านสุขภาพโดยทั่วๆ ไปแล้ว ยังได้เพิ่มฟังก์ชั่นในเรื่องการอำนวยความสะดวกในการรับวัคซีนโควิด-19 เช่น การแจ้งเตือนประชาชนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงว่ามีรายชื่ออยู่ในกลุ่มที่รับวัคซีนเป็นกลุ่มแรก การเลือกสถานที่รับวัคซีน และนัดเวลารับวัคซีน รวมทั้งติดตามอาการไม่พึงประสงค์ต่างๆ ตลอดจนมีระบบนัดแจ้งเตือนการรับวัคซีนเข็มที่ 2 เพื่อให้การรับวัคซีนมีประสิทธิการทำงานได้อย่างเต็มที่
"ถ้าท่านอยู่ในกลุ่มเสี่ยงและเป็นกลุ่มแรกๆ ที่จะต้องได้รับวัคซีน หมอพร้อมจะแจ้งเตือนว่าให้มารับวัคซีนเข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 และรับแบบประเมินผล เพื่อช่วยติดตามอาการข้างเคียง" นพ.สุภโชคระบุ
ส่วนกลุ่มต่างๆ จะมีการทยอยนำรายชื่อเข้ามาเพิ่มเติม เช่น กลุ่มประชาชนทั่วไป กระทรวงสาธารณสุขจะนำเข้าข้อมูลรายชื่อจากระบบทะเบียนราษฎร์เพื่อแจ้งการรับวัคซีน โดยเป้าหมายของการรับวัคซีน คาดว่าภายในสิ้นปี 64 นี้จะมีผู้ได้รับวัคซีน 60-70% ของประชากรทั้งหมดของประเทศ
นพ.จักรรัฐ ยังกล่าวถึงสถานการณ์โรคโควิด-19 ประเทศไทยว่า ขณะนี้ผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงอย่างต่อเนื่อง จำนวนผู้ติดเชื้อต่ำกว่า 100 รายต่อวัน อย่างไรก็ดี สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เป็นคลัสเตอร์ จ.ปราจีนบุรี และ จ.นครนายก พบติดเชื้อแล้ว 5 ราย จากการสอบสวนโรคพบเกิดจากการไม่สวมหน้ากากอนามัย และมีการพูดคุยใกล้ชิดกัน ทำให้มีความเสี่ยงสูงที่จะแพร่และรับเชื้อ โดยเป็นคู่สามี-ภรรยา ช่วยลูกขายอาหารในโรงงานที่ปราจีนบุรี มีประวัติเดินทางไปซื้อของที่ตลาดสี่มุมเมือง จ.ปทุมธานี ภายหลังมีอาการครั่นเนื้อครั่นตัว เหนื่อย มีไข้ จึงเข้ารับการตรวจที่ จ.นครนายก ผลพบเชื้อ
ทั้งนี้ ได้ติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงสูงประกอบด้วย คนในครอบครัว 4 ราย ตรวจไม่พบเชื้อ รอตรวจครั้งที่ 2 ส่วนลูกจ้างในร้านขายอาหาร 10 ราย พบติดเชื้อ 3 ราย ผู้สัมผัสที่สถานพยาบาลที่เข้ารับการตรวจอีก 36 ราย ทั้งหมดไม่พบเชื้อ รอตรวจครั้งที่ 2 นอกจากนี้ยังติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 12 ราย และผู้สัมผัสในโรงงานอีก 1,428 ราย ทั้งหมดรอผล โดยผู้ติดเชื้อเข้าสู่ระบบรักษา ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเข้าระบบกักกันจนครบ 14 วัน และยังได้ติดตามผลการตรวจในรายอื่นๆ ต่อไป
"สาเหตุสำคัญของการติดเชื้อโควิด 19 มาจากการไม่เคร่งครัดมาตรการป้องกันส่วนบุคคล ทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรค พบผู้ป่วยเป็นกลุ่มก้อนได้ ดังนั้นขอความร่วมมือประชาชน อย่าประมาท โดยเฉพาะผู้ที่มีอาชีพค้าขายบริการ สัมผัสกับคนจำนวนมาก ขอให้เคร่งครัดการสวมหน้ากากผ้า/หน้ากากอนามัย รักษาระยะห่าง หมั่นล้างมือ สแกนไทยชนะ" นพ.จักรรัฐกล่าว