นายปรีชา กิจถาวร นายกสมาคมการค้าผู้เลี้ยงสุกรภาคใต้ เปิดเผยว่า ขณะนี้ในพื้นที่เลี้ยงสุกรของ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี กับ อ.บางแก้ว และ อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง พบการระบาดของโรค PRRS หรือโรคเพิร์ส โดยเฉพาะในฟาร์มสุกรรายย่อยแบบเลี้ยงหลังบ้าน และฟาร์มขนาดเล็กที่ระบบมาตรฐานการเลี้ยงยังไม่ดีนัก ทำให้สุกรในฟาร์มเกิดความเสียหาย
อย่างไรก็ตาม โรคเพิร์สพบในประเทศไทยมานานกว่า 10 ปี และเกิดเฉพาะในสุกรเท่านั้น โดยถือเป็นโรคที่สำคัญเนื่องจากสร้างความเสียหายให้กับฝูงสุกร หากติดโรคต้องทำลายสุกร ตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 เพื่อป้องกันการแพร่กระจายในวงกว้าง สำหรับพื้นที่ที่พบในขณะนี้เจ้าหน้ากรมปศุสัตว์ได้เข้าดำเนินการควบคุมโรค พร้อมพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อภายในฟาร์มและบริเวณโดยรอบ ซึ่งยังอยู่ในรัศมีที่สามารถควบคุมได้
"เพิร์สเป็นโรคที่พบเฉพาะในหมู ไม่ติดต่อสู่คน ผู้บริโภคสามารถรับประทานเนื้อหมูปลอดภัยได้ตามปกติเพียงปรุงให้สุก หลีกเลี่ยงการกินสุกๆ ดิบๆ โดยเกษตรกรทุกจังหวัดทั่วประเทศ และเกษตรกรในพื้นที่ภาคใต้ยังคงเข้มงวดยกระดับมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันโรคในสุกร ทั้งเพิร์ส และ ASF ที่ไทยยังคงสถานะประเทศปลอดโรคนี้อยู่จนถึงปัจจุบัน" นายปรีชากล่าว
พร้อมระบุว่า เกษตรกรภาคใต้อยากให้ภาครัฐเพิ่มมาตรการเชิงรุก ด้วยการสุ่มตรวจเชื้อบนรถขนส่งสุกร รวมถึงตรวจชิ้นเนื้อที่โรงเชือดทั้งหมด ถ้าพบต้องทำความสะอาดพ่นยาฆ่าเชื้อและพักการใช้งาน จนกว่าจะตรวจไม่พบเชื้อ เพื่อการป้องกันโรคอย่างทันท่วงที และขอเน้นย้ำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงต้องให้ความร่วมมือกับทางการในการแจ้งเหตุอย่างเร่งด่วน หากพบหมูป่วยหรือตายผิดปกติ และไม่นำหมูป่วยหรือซากหมูออกขาย เพราะจะทำให้ปัญหายิ่งลุกลาม เท่ากับการเฝ้าระวังและป้องกันโรคที่ทุกคนทำมาตลอดต้องสูญเปล่า
ทั้งนี้ ภาคใต้มีการเลี้ยงสุกรแม่พันธุ์ ประมาณ 100,000 ตัว โดย จ.พัทลุง มีการเลี้ยงมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของภาคใต้ และเป็นอันดับที่ 4 ของประเทศ เป็นการเลี้ยงเพื่อจำหน่ายในพัทลุงเป็นหลัก และส่งไปจำหน่ายยังพื้นที่ภาคใต้หลายจังหวัด ส่วนจังหวัดที่มีการเลี้ยงรองลงมาคือ จ.นครศรีธรรมราช และ จ.สุราษฎร์ธานี