นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากเหตุการณ์การชุมนุมของชาวเมียนมาในประเทศไทยเพื่อเรียกร้องให้คืนความเป็นประชาธิปไตย ที่บริเวณหน้าองค์การสหประชาชาติประจำประเทศไทย (UN) ซึ่งมีการนัดรวมตัวกันเป็นประจำทุกสัปดาห์ สร้างความกังวลใจให้กับคนไทยเป็นอย่างมาก เกรงว่าจะก่อให้เกิดการติดเชื้อโควิด-19 และการระบาดตามมาได้
เนื่องจากพบว่าผู้ร่วมชุมนุมเป็นชาวเมียนมาที่เดินทางมาจากหลายพื้นที่ที่ยังมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมถึงจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งยังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อย่างต่อเนื่อง อยู่ระหว่างการดำเนินการควบคุมป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด ซึ่งมาตรการสำคัญหนึ่งที่ช่วยให้การควบคุมโรคได้ผลดี คือ การห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานออกนอกพื้นที่ทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโรคเป็นวงกว้าง
"จากการติดตามสถานการณ์การชุมนุม พบว่า มีการรวมตัวของผู้คนเป็นจำนวนมาก มีการตะโกน พูดคุยกันใกล้ชิด โดยไม่ได้ป้องกันตัวเองที่เพียงพอ ทั้งการเว้นระยะห่าง การสวมหน้าอนามัย/หน้ากากผ้า อีกทั้งการที่แรงงานชาวเมียนมาออกนอกพื้นที่ ที่ยังมีการระบาดของโรคร่วมชุมนุม อาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ได้ ต้องขอความร่วมมือนายจ้าง ผู้ประกอบการ ทำความเข้าใจกับแรงงานของตน ว่าการชุมนุมและการออกนอกพื้นที่ผิดกฎหมาย ที่สำคัญคือความเสี่ยงเกิดโรคระบาดในประเทศ" นพ.เกียรติภูมิ กล่าว
แม้ว่ากระทรวงสาธารณสุขได้เร่งรัดดำเนินการควบคุมป้องกันโรคอย่างต่อเนื่อง จนสถานการณ์มีแนวโน้มดีขึ้น แต่ก็ยังวางใจไม่ได้ เนื่องจากประเทศไทยยังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในหลายพื้นที่ ล่าสุดยังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นกลุ่มก้อนที่ จ.ปราจีนบุรี-นครนายก สาเหตุจากการไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำ ทั้งการสวมหน้าอนามัย/หน้ากากผ้า การเว้นระยะห่าง และการหมั่นล้างมือ ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุข ขอประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนให้ทุกคนร่วมมือกันเคร่งครัด มาตรการป้องกันตนเอง การ์ดอย่าตก แม้จะเริ่มมีการทยอยฉีดวัคซีนในประเทศไทยแล้ว