โดยข้อมูลดังกล่าวเพิ่งได้รับรายงานเมื่อค่ำวานนี้ และคณะแพทย์ได้พิจารณากันอย่างจริงจังตามข้อมูลที่ได้รับจากต่างประเทศจนได้ข้อสรุปว่าจะชะลอการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าไว้ระยะหนึ่ง เพื่อรอผลการสอบสวนอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นอย่างละเอียดก่อน แม้ว่าคณะแพทย์จะยืนยันว่าวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้ามีความปลอดภัยและได้รับมาตรฐานจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ฉีดไปแล้วมากกว่า 30 ล้านโดส และมีการสั่งซื้อมากกว่า 3,000 ล้านโดส
อย่างไรก็ตาม คณะแพทย์ได้ยึดหลักความปลอดภัยของประชาชนที่จะได้รับวัคซีนสูงสุดจึงให้ชะลอไว้ก่อน แม้ว่าวัคซีนที่ใช้ในยุโรป กับวัคซีนที่ส่งมาประเทศไทยเป็นคนละล็อต และมาจากคนละโรงงาน แต่เมื่อมีรายงานอาการที่ไม่พึงประสงค์ แม้จะยังไม่ยืนยันว่าเป็นผลจากวัคซีนโดยตรงก็ตาม
นายอนุทิน ระบุอีกว่า การชะลอหรือหยุดฉีดวัคซีนชั่วคราวเพื่อสอบสวนหาข้อมูลเป็นเรื่องปกติทางการแพทย์ โดยเฉพาะการฉีดวัคซีนใหม่ และการฉีดวัคซีนในวงกว้างระดับประเทศและระดับโลก ซึ่งการฉีดวัคซีนโควิดอื่นๆ ในบางประเทศก็เคยหยุด หรือ ชะลอ เพื่อรอผลการสอบสวนมาแล้ว ก่อนจะกลับมาฉีดเมื่อมีความมั่นใจในผลการสอบสวนว่าไม่ใช่ผลจากวัคซีน
"นี่เป็นเหตุผลหนึ่งของการใช้วัคซีนแบบสถานการณ์ฉุกเฉิน หากมีอาการไม่พึงประสงค์ แม้จะไม่ชัดเจนว่ามาจากวัคซีนหรือไม่ คณะกรรมการบริหารจัดการวัคซีนของรัฐบาล จะมีคำสั่งให้หยุดการฉีดวัคซีนไว้ก่อน เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของประชาชน นายกรัฐมนตรี ในฐานะประชาชน ต้องอยู่ภายใต้ข้อกำหนดของคณะกรรมการฯ เช่นเดียวกัน" นายอนุทิน ระบุ
สำหรับผลการสอบสวนในยุโรปคาดว่าะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะรายงานให้ประชาชนทราบต่อไป โดยในช่วงนี้ยังมีการฉีดวัคซีนของซิโนแวกตามแผนเดิม