นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ได้รับรายงานจากเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ว่าที่ประชุมคณะกรรมการ อย.อนุมัติขึ้นทะเบียนวัคซีนโควิด-19 ของบริษัท จอห์นสันแอนจอห์นสัน แล้ว คาดว่าจะสามารถนำเข้ามาขายในประเทศไทยได้ในช่วงไตรมาส 4/64 ราคาโดสละ 10 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นไปตามราคาที่ควบคุมขององค์การอนามัยโลก
วัคซีนของจอห์นสันฯ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของประชาชนคนไทย และเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่ารัฐบาลไม่ได้ปิดกั้นวัคซีนยี่ห้ออื่น อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยังไม่เห็นถึงความจำเป็นที่จัดสรรงบประมาณไปจัดซื้อวัคซีนดังกล่าว เนื่องจากมีฐานการผลิตวัคซีนของบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า โดยบริษัท สยามไบโอไซด์ ปีละ 200 ล้านโดสอยู่แล้ว ซึ่งมีการพัฒนาที่รวดเร็วเกินคาดกว่าที่ตั้งเป้าไว้ ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลว่าจะขาดแคลน
"ต่อให้มีสถานการณ์ใดเกิดขึ้น วัคซีนในประเทศไทยจะเข้าถึงประชาชนแน่นอน และหากได้ผลที่ดีก็จะพิจารณาเปิดประเทศเร็วขึ้น ซึ่งขณะนี้ได้มีการพูดคุยกับบางสถานทูตในการจับคู่ประเทศ หรือยอมรับใบรับรองการฉีดวัคซีน" นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวว่า หากการกระจายวัคซีนเป็นตามแผน ในอีก 2 เดือนหน้าจะสามารถประเมินได้ว่าหลังฉีดให้ประชาชนแล้วมีภูมิคุ้มกันเป็นที่น่าพอใจเพียงอที่ผ่อนคลายมาตรการให้มากขึ้นหรือไม่ ซึ่งหลักการสำคัญคือความปลอดภัยของประชาชน หากประชาชนปลอดภัยก็พร้อมเปิดประเทศแน่นอน
"จะเปิดประเทศเดือนใดนั้นขึ้นอยู่กับการรับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้ให้นโยบายกับกรมควบคุมโรค และคณะกรรมการองค์การอาหารและยา (อย.) ว่า การรับรองวัคซีนต้องอิงกับการรับรองขององค์การอนามัยโลก หรือเป็นวัคซีนที่ได้รับการขึ้นทะเบียนโดย อย.ของไทย" นายอนุทิน กล่าว