ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอนุมัติให้กระทรวงกลาโหมก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ ในโครงการจัดหารถหุ้มเกราะ 96 คัน ระยะเวลา 4 ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ 50-53 วงเงิน 3,898 ล้านบาท และโครงการของกองทัพบกในการจัดหาปืนเล็กยาวขนาด 5.56 มม.จำนวน 15,000 กระบอก, ปืนกลเล็ก 992 กระบอก วงเงิน 259 ล้านบาท ระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ 50-52 วงเงิน 960.86 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นการจัดซื้อจากรัฐบาลอิสราเอล
พร้อมกันนั้น ยังอนุมัติโครงการจัดหาอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่พื้น ทดแทน C-801 และลูกอาวุธปล่อยนำวิถีให้กับเรือฟริเกตของกองทัพเรือ ในชุดเรือรบหลวงเจ้าระยา ระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ 50-52 วงเงิน 1,599 ล้านบาท
รวมถึงโครงการจัดซื้อรถยนต์ตรวจการนำขบวนเสด็จ จำนวน 3 รายการ ประกอบด้วย รถยนต์พิเศษ 8 คัน, รถตรวจการพิเศษ 16 คัน และรถตรวจการทั่วไปอีก 10 คัน แต่ยังไม่มีการกำหนดวงเงินงบประมาณ
นายณัฐฐวัฒน์ สุทธิโยธิน ผู้ช่วยโฆษกประสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รมว.กลาโหมย้ำว่าโครงการจัดซื้อทุกอย่างดำเนินการด้วยการโปร่งใส ไม่มีวาระซ่อนเร้น
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ไทยต้องการพิจารณาจัดซื้ออาวุธปืนจากสหรัฐฯ แต่เนื่องจากมีการนำไปใช้ในตะวันออกกลางเป็นจำนวนมาก จึงไม่เพียงพอขายให้กับไทย ดังนั้นจึงหันไปซื้อจากอิสราเอลแทน ซึ่งเป็นอาวุธที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกัน โดยการเจรจาซื้อขายกับอิสราเอลนั้นกระทรวงการต่างประเทศจะใช้ความระมัดระวังอย่างมาก เพื่อไม่ให้กระทบกับความสัมพันธ์กับประเทศในกลุ่มที่นับถือศาสนาอิสลาม
--อินโฟเควสท์ โดย ฐานิสร์ ทองนอก/ศศิธร/กษมาพร โทร.0-2253-5050 อีเมล์: kasamarporn@infoquest.co.th--