นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่า สทนช.ได้ดำเนินการสร้างการรับรู้เรื่องการจดทะเบียนก่อตั้งองค์กรผู้ใช้น้ำในทุกช่องทาง ทั้งในส่วนกลางและในระดับพื้นที่มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือน ธ.ค.63 เพื่อเป็นการสร้างความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้อง ชัดเจน และส่งเสริมให้ผู้ใช้น้ำในทุกภาคส่วนเกิดการตระหนักถึงบทบาทและความสำคัญขององค์กรผู้ใช้น้ำในการสร้างการมีส่วนร่วมบริหารจัดการทรัพยากรน้ำมิติใหม่ของประเทศ รวมทั้งเพื่อเป็นการปูพื้นฐานเตรียมความพร้อมในการยื่นคำขอจดทะเบียนขอรับรองความเป็นองค์กรผู้ใช้น้ำให้ทุกขั้นตอนดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ประกอบกับ ปัจจุบันแบบคำขอจดทะเบียนก่อตั้งองค์กรผู้ใช้น้ำ แบบหนังสือสำคัญการจดทะเบียนองค์กรผู้ใช้น้ำ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว เมื่อวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่ง สทนช.พร้อมที่จะรับจดทะเบียนก่อตั้งองค์กรผู้ใช้น้ำ โดยมีกำหนดเปิดรับตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.ที่จะถึงนี้เป็นต้นไป
ขั้นตอนการจดทะเบียนได้กำหนดให้กลุ่มบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลหรือห้างหุ้นส่วนสามัญที่รวมตัวกันจำนวนไม่น้อยกว่า 30 ราย ตั้งตัวแทนไปยื่นคำขอจดทะเบียนก่อตั้งองค์ผู้ใช้น้ำต่อ สทนช.ในฐานะนายทะเบียน เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนอย่างทั่วถึง สทนช.จึงได้เปิดรับสมัครผ่าน 4 ช่องทาง ได้แก่ 1.ทางเว็บไซต์ที่ https://twuo.onwr.go.th 2.สมัครด้วยตนเองที่สำนักงาน สทนช.ส่วนกลาง อาคารจุฑามาศ (ในวันและเวลาราชการ) 3.สมัครด้วยตนเองที่สำนักงาน สทนช. ภาค 1-4 ที่ จ.ลำปาง จ.สระบุรี จ.ขอนแก่น และ จ.สุราษฎร์ธานี (ในวันและเวลาราชการ) และ 4.ส่งเอกสารทางไปรษณีย์ถึง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ อาคารจุฑามาศ ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร 10210 โดยหลังจากยื่นคำขอจดเทียนแล้วจะมีกระบวนการในการตรวจสอบข้อมูลประมาณ 30 วัน หากนายทะเบียนพิจารณาแล้วพบว่าข้อมูลที่ได้รับถูกต้องครบถ้วน จึงจะอนุมัติโดยมีการออกหนังสือสำคัญการจดทะเบียน เพื่อรับรองว่าเป็นองค์กรผู้ใช้น้ำตาม พ.ร.บ.ทรัพยากรน้ำ พ.ศ.2561 รวมทั้งจะมีการประกาศรายชื่อองค์กรผู้ใช้น้ำและเขตพื้นที่ดำเนินกิจกรรมขององค์กรผู้ใช้น้ำไว้โดยเปิดเผย ณ สถานที่ที่ผู้นั้นยื่นคำขอจดทะเบียน และทางอิเล็กทรอนิกส์ต่อไป ทั้งนี้องค์กรหรือกลุ่มผู้ใช้น้ำของหน่วยงานที่มีอยู่เดิมตามภารกิจก็จะต้องมายื่นขอจดทะเบียนก่อตั้งเป็นองค์กรผู้ใช้น้ำตาม พ.ร.บ.ทรัพยากรน้ำ พ.ศ.2561 ด้วยเช่นกัน
สำหรับองค์กรผู้ใช้น้ำถือเป็นก้าวสำคัญซึ่งจะนำไปสู่มิติใหม่ของการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศไทยในอนาคต โดยรัฐบาลมีความมุ่งหวังให้เป็นกลไกเพื่อยกระดับการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้ง รวมถึงการบริหารจัดการน้ำในระดับพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งนอกจากองค์กรผู้ใช้น้ำจะมีบทบาทสำคัญในการดำเนินการเกี่ยวกับการใช้ การพัฒนา การบริหารจัดการ การบำรุงรักษา การฟื้นฟูและการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำในหมู่สมาชิกร่วมกันแล้ว ยังมีโอกาสที่จะเข้ารับการคัดเลือกเป็นกรรมการลุ่มน้ำในเขตลุ่มน้ำของตน
นอกจากนี้กรรมการลุ่มน้ำผู้แทนองค์กรผู้ใช้น้ำยังมีสิทธิได้รับการคัดเลือกไปเป็นกรรมการผู้แทนคณะกรรมการลุ่มน้ำในคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) รวมทั้งสิ้นจำนวน 4 คน สามารถเสนอแนะ ให้ข้อมูลหรือความคิดเห็นต่อ กนช. เพื่อนำมาใช้ในการบริหารทรัพยากรน้ำในเขตลุ่มน้ำของตนเองอีกด้วย สทนช.จึงขอเชิญชวนให้ผู้ใช้น้ำทุกท่าน รวมตัวกันจดทะเบียนองค์กรผู้ใช้น้ำ เพื่อประโยชน์ของการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำทั้งระบบต่อไป