นพ.วิเศษ สิรินทรโสภณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยถึงสถานการณ์โควิด-19 ในส่วนของเรือนจำนราธิวาสว่า จากจำนวนผู้ต้องขัง 2,409 คน พบติดเชื้อโควิด 93 คน โดยส่วนใหญ่ 91 คนไม่มีอาการ ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่ รพ.สนาม ซึ่งตั้งอยู่ภายในเรือนจำนราธิวาส มีศักยภาพรองรับผู้ป่วยได้ถึง 900 เตียง ส่วนอีก 2 คนมีอาการ เข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่ รพ.นราธิวาสราชนครินทร์
ส่วนเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในเรือนจำ 96 คน พบติดเชื้อโควิด 24 คน ส่วนใหญ่ 23 คนไม่มีอาการ และอีก 1 คน มีอาการเล็กน้อย ทั้งหมดรักษาตัวใน รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ อย่างไรก็ดี มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงซึ่งมีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยกลุ่มนี้กระจายไปอีก 6 จังหวัด คือ ปัตตานี สงขลา ยะลา สุราษฎร์ธานี นครราชสีมา และกรุงเทพฯ ซึ่งจะได้มีการติดตามตัวมาสอบสวนโรคต่อไป
สำหรับกลุ่มผู้ต้องขังและเจ้าหน้าที่เรือนจำที่ไปร่วมกิจกรรมรณรงค์ต่อต้านยาเสพติดที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี รวม 8 คนนั้น พบว่าผู้ต้องขังติดเชื้อ 4 คน เจ้าหน้าที่ 1 คน ขณะรักษาตัวอยู่ที่ รพ.สุราษฎร์ธานี
นพ.วิเศษ กล่าวว่า ผู้ต้องขังในเรือนจำ ถือเป็นกลุ่มบุคคลเฉพาะที่จะต้องมีการบริหารจัดการดูแลเพื่อเฝ้าระวังการแพร่ระบาด ซึ่งทางเรือนจำได้ใช้มาตรการ Bubble & Seal เข้ามาดูแล โดยมีการจำกัดการเคลื่อนย้าย แยกผู้ต้องขังกลุ่มเปราะบางออกมาดูแลเฉพาะ เช่น ผู้ต้องขังที่มีอายุมากกว่า 55 ปี, ผู้ต้องขังที่มีโรคประจำตัว และผู้ต้องขังหญิงตั้งครรภ์ เป็นต้น ขณะเดียวกัน ได้ขอความร่วมมือให้ญาติงดเดินทางไปเยี่ยมผู้ต้องขังในช่วงนี้ไว้ก่อน เพื่อลดโอกาสในการแพร่เชื้อ พร้อมประเมินว่าสถานการณ์จะเริ่มคลี่คลายได้ประมาณต้นเดือน พ.ค.นี้
ด้านนายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ในเดือนเม.ย.นี้ มีผู้ต้องขังจำนวนหนึ่งที่จะพ้นโทษและได้ร้บการปล่อยตัวออกจากเรือนจำ ซึ่งก่อนที่ผู้ต้องขังเหล่านี้จะสามารถกลับบ้านได้ จะต้องมีการคัดกรองอีกรอบ โดยจะให้เข้าไปสังเกตอาการ 14 วัน ที่ศูนย์บำบัดยาเสพติด ซึ่งเป็นสถานที่กักตัว Local Quarantine และเมื่อครบ 14 วันไม่มีอาการผิดปกติใดๆ จึงสามารถกลับบ้านได้