นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)(ศบค.) เปิดเผยว่า ศูนย์ปฏิบัติการบริหารสถานการณ์โควิด-19 กระทรวงสาธารณสุข (ศปก.สธ.) เตรียมเสนอ ศบค.ชุดใหญ่ ปิดสถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษระคล้ายสถานที่บริการสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ และสถานประกอบการกิจการ อาบ อบ นวด ใน 41 จังหวัด ซึ่งรวมถึง กทม.และปริมณฑล เป็นเวลาอย่างน้อย 14 วัน
สำหรับ 41 จังหวัดนั้นพิจารณาจากจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานบันเทิง หรือเป็นจังหวัดที่มีความเสี่ยง ทางผ่าน หรือเป็นเมืองใหญ่ ประกอบด้วย กรุงเทพฯ, นนทบุรี, ปทุมธานี, นครปฐม, สมุทรปราการ, สมุทรสงคราม, สมุทรสาคร, พระนครศรีอยุธยา, สระบุรี, ลพบุรี, นครนายก, ชลบุรี, ระยอง, จันทบุรี, ปราจีนบุรี, ฉะเชิงเทรา, สระแก้ว, สุพรรณบุรี, กาญจนบุรี, ราชบุรี, ประจวบคีรีขันธ์, เพชรบุรี, ระนอง, ชุมพร, นครศรีธรรมราช, ภูเก็ต, สุราษฎร์ธานี, สงขลา, ยะลา, นราธิวาส, นครราชสีมา, ขอนแก่น, ชัยภูมิ, อุดรธานี, บุรีรัมย์, เลย, เชียงใหม่, ลำปาง, เชียงราย, ตาก และเพชรบูรณ์
ส่วนสถานประกอบการอื่นๆ ที่ไม่ใช่สถานบันเทิง ยังสามารถประกอบกิจการได้เหมือนเดิม แต่ขอให้เพิ่มความเข้มงวดในการดำเนินการตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างสม่ำเสมอและเคร่งครัด หรือ อาจพิจารณาหยุดการดำเนินการด้วยความสมัครใจ เพื่อให้สามารถดำเนินกิจการได้อย่างปลอดภัย
นอกจากนี้ เตรียมเสนอ นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้อำนวยการศบค.ชุดใหญ่ อนุมัติให้หน่วยงานภาครัฐทุกหน่วยงานสามารถปฏิบัติงานนอกสถานที่ หรือ Work from Home ตามความเหมาะสม รวมถึง ขอความร่วมมือผู้ประกอบการภาคเอกชนด้วย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ขณะนี้พบว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นและเข้ารับการรักษาพยาบาลทั้งในโรงพยาบาลรัฐและเอกชน จึงเตรียมมาตรการรองรับไว้ 3 แนวทาง คือ ให้โรงพยาบาลเพิ่มเตียง ,ใช้ Alternative State Quarantine (ASQ) หรือ สถานที่กักตัวทางเลือก เป็นสถานที่รักษาสำหรับผู้ที่ไม่มีอาการหรืออาการน้อย โดยจะมีทีมจากโรงพยาบาลร่วมดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด และการเตรียมตั้งโรงพยาบาลสนามในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ กทม.ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ซึ่งขณะนี้ทุกจังหวัดได้เตรียมการไว้แล้ว
ส่วนการพบว่าเชื้อที่แพร่ระบาดในขณะนี้ เป็นเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อังกฤษนั้น จะต้องมีการปรับรูปแบบการกักตัวหรือไม่ โฆษกระบุว่า ศบค. กล่าวว่า ทางกระทรวงสาธารณสุขและทีมแพทย์ ประเมินแล้วเห็นว่าสายพันธุ์นี้แพร่กระจายได้รวดเร็ว และขณะนี้ยังไม่ทราบว่าเชื้อสายพันธุ์ดังกล่าวมีต้นเหตุมาจากที่ใด เบื้องต้นคาดว่าอาจหลุดรอดมาจากการพ้นระยะกักตัวแล้ว แต่เชื้อยังแพร่กระจายได้ ดังนั้นจึงมีความเป็นห่วง และเห็นว่าควรขยายวันกักตัวจาก 10 วัน เป็น 14 วัน ตามเดิม เพื่อให้พ้นระยะปลอดภัย และระหว่างกักตัวจะมีการป้องกันอย่างเต็มที่ พร้อมดูแลอย่างใกล้ชิด
อย่างไรก็ตามขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด เพื่อช่วยกันควบคุมสถานการณ์แพร่ระบาด จะได้ไม่ส่งผลกระทบต่อด้านอื่นๆ โดยเฉพาะเศรษฐกิจ