นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวว่า ที่ประชุมวันนี้ได้รับทราบกลุ่มก้อนสถานประกอบการ ที่มีทั้งหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่อุดรธานี มีจำนวน 8 คน ธนาคารสำนักงานใหญ่ในกรุงเทพมหานคร มี 5 คน บริษัทเอกชนในกรุงเทพมหานคร มี 3 ราย บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในชลบุรีมี 23 ราย บริษัทเอกชนในสมุทรสาคร 2 คน บริษัทเอกชน 3 แห่งในนนทบุรี 12 คน และบริษัทเอกชนในปทุมธานี 4 ราย ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงต้อง Work from Home ที่ทาง ศบค.ได้ออกมาเป็นข้อกำหนด
รวมทั้งคนที่ยังอยู่ต่างจังหวัดซึ่งวันนี้เป็นวันสุดท้ายช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ ก็ขอให้หน่วยงานอนุญาตให้พนักงานหยุดต่อคือ Work from Home ไม่ต้องเข้ามาทำงานที่บริษัทหรือหน่วยงาน ขอให้ไม่เคลื่อนย้ายหลังเดินทางกลับมา ซึ่งตามหลักการของ ศบค.คือ จำกัดที่หมาย ลดการเคลื่อนย้าย โดยตามประกาศได้ออกประกาศว่าร้านสะดวกซื้อ ซึ่งคือที่หมาย ตั้งแต่เมื่อคืน ตั้งแต่ 5 ทุ่มถึงตี 4 ได้หยุดตามเวลาที่กำหนด แต่ ณ เวลานี้ คือลดการเคลื่อนย้าย ก็จะทำให้เราสามารถที่จะบริหารจัดการได้และใช้โอกาสนี้ Big Cleaning และทำแผนเฝ้าระวัง ให้พนักงานถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด
สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยง อาทิ ผู้สูงอายุ มีโรคประจำตัว เกือบทุกรายอาการหนักและเสียชีวิต ก็ต้องหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้คน การเดินทางหากไม่จำเป็น
นพ.ทวีศิลป์ ยังกล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการออกคำแนะนำจากก.สาธารณสุข กรณีอยู่ในบริษัท สถานที่ทำงานและคอนโดมิเนียม ดังนี้ กรณีที่เป็นบุคคล ให้พนักงานหรือผู้พักอาศัยที่ติดเชื้อหยุดงานทันทีและแยกตัวเองจากผู้อื่น จากนั้นแจ้งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อและคัดกรองกลุ่มเสี่ยง โดยผู้ที่มีความเสี่ยงสูงให้รีบพบแพทย์ทันทีพร้อมทั้งกักตัว 14 วัน ส่วนผู้เสี่ยงต่ำ แยกตัวเองเพื่อสังเกตุอาการ 14 วัน หากมีอาการให้รีบพบแพทย์ทันที
สำหรับสถานที่ ให้หยุดกิจกรรมในแผนกหรือชั้นที่มีคนติดเชื้อเพื่อทำความสะอาด 1-3 วัน พนักงานหรือผู้พักอาศัย ทำความสะอาดสิ่งของที่ใช้งานบ่อยๆ เช่น โต๊ะทำงาน โทรศัพท์ และทำความสะอาดบริเวณที่มีผู้สัมผัสจำนวนมาก เช่น ราวจับบันได ลูกบิดประตู ห้องน้ำ รวมถึงระมัดระวังการเก็บขยะติดเชื้อ ทิชชูที่ผ่านมาใช้งานแล้ว ให้ใส่ถุงขยะและปิดปากถุงอย่างมิดชิด โดยผู้ปฏิบัติการทำความสะอาด ต้องสวมอุปกรณ์ส่วนบุคคล เช่น ถุงเมือ ผ้ากันเปื้อน ผ้าปิดจมูก รองเท้าพื้นยางหุ้มแข้งตลอดเวลา
สำหรับกรณีผู้ที่ได้รับการยืนยันติดเชื้อโควิด-19 แต่ยังไม่ได้ไปโรงพยาบาลเพราะจำนวนเตียงไม่พอนั้น โฆษก ศบค. กล่าวว่า เรื่องนี้ก.สาธารณสุขได้มีการพูดคุยกับเช้านี้ โดยที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านสาธารณสุข จะมีการวางมาตรการกันใหม่ปรับแผนเชิงรุกกันเพื่อแก้ไขปัญหานี้ โดยปลัดก.สาธารณสุขในฐานผู้อำนวยการศูนย์ฯ ได้สั่งการรูปแบบ Single Command ซึ่งก.สาธารณสุขจะขอความร่วมมือจากหน่วยงานอื่นๆประสานงานกันมีชุดข้อมูลเดียวกัน ขณะที่ บางพื้นที่มีที่แต่ไม่มีหมอ ก็จะมีการจัดการอย่างบูรณาการกันอย่างเต็มที่ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อย่างไรก็ตามระหว่างที่รอเตียงขอให้ผู้ป่วยแยกพื้นที่ก่อนในช่วงดูแลอยู่ที่บ้าน ซึ่งส่วนใหญ่อาการยังน้อย และไม่มีอาการ โดยยังใช้หลัก D-M-H-T-T และจะมีข้อปฏิบัติตัวหลังจากที่รู้ว่าติดเชื้อ