สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) หรือ กพท. เปิดเผยว่า เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในระบบการขนส่งทางอากาศ เจ้าหน้าที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) ได้เข้าตรวจสอบการปฏิบัติตามมาตรการของสายการบินและท่าอากาศยาน โดยเริ่มออกตรวจมาตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2564 มีเป้าหมายหลักที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและดอนเมือง ซึ่งเป็นท่าอากาศยานหลักในปัจจุบันที่มีผู้โดยสารต้องใช้บริการในช่วงเทศกาลสงกรานต์
เจ้าหน้าที่ CAAT ได้เข้าตรวจสอบระบบตั้งแต่การตรวจสอบผู้โดยสารที่ประตูต่าง ๆ โดยท่าอากาศยานมีการตรวจคัดกรองบุคคลด้วยการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายโดยเครื่องวัดอุณหภูมิแบบอินฟราเรดและมีการติดสติ๊กเกอร์เพื่อแสดงถึงการผ่านการคัดกรอง นอกจากนี้ยังมีการควบคุมให้ผู้โดยสารทุกคนสวมหน้ากากหรืออุปกรณ์ป้องกันใบหน้าบริเวณจมูกและปาก หากพบผู้ที่มีความเสี่ยงหรือไม่ปฏิบัติตาม ทางท่าอากาศยานจะปฏิเสธการให้เข้าพื้นที่ และหากพบว่ามีอาการไข้ แพทย์ประจำท่าอากาศยานจะเข้ามาตรวจสอบถึงสาเหตุ หากมีความสงสัยจะได้ส่งต่อยังโรงพยาบาลเพื่อดำเนินการต่อไป
นอกจากนี้ทางท่าอากาศยานยังได้มีการจัดทำแนวทางเพื่อให้เกิดระยะห่างระหว่างบุคคลในขั้นตอนต่าง ๆ ได้แก่ การออกบัตรขึ้นเครื่อง (Check- in counter) จุดตรวจบัตรโดยสาร พื้นที่จุดตรวจค้น (Security Check) การรอขึ้นเครื่องบินที่หน้าประตูขึ้นเครื่อง Contact Gate/Bus Gate การรอรับกระเป๋าที่สายพานรับกระเป๋า รวมถึงพื้นที่อื่น ๆ โดยต้องมีการจัดการเกี่ยวกับการเว้นระยะนั่งหรือยืนห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร ในทุก ๆ จุด และ CAAT ยังเน้นย้ำขอให้มีการตรวจสอบเพื่อให้มั่นใจว่าสัญลักษณ์ต่าง ๆ อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้อย่างแท้จริง
เจ้าหน้าที่ CAAT ยังกำชับให้ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคพื้นที่และอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในท่าอากาศยานอย่างสม่ำเสมอ พร้อมทั้งตรวจสอบการใช้อุปกรณ์และการสวมใส่ชุดป้องกันส่วนบุคคลของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานว่าเหมาะสมตามระดับความเสี่ยงในภารกิจการทำงานและเป็นไปตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดหรือไม่ รวมถึงการจัดเตรียมอุปกรณ์ทำความสะอาดภายในท่าอากาศยานเพื่อให้ผู้ใช้บริการได้ล้างมือตามจุดต่าง ๆ อย่างทั่วถึง ซึ่งทางสนามบินปฏิบัติได้เป็นอย่างดีและมีการเพิ่มเติมจุดแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อโรคอย่างเหมาะสม
สำหรับการดำเนินการของสายการบินพบว่ามีมาตรการในการจัดระบบให้ผู้โดยสารขึ้นและลงจากอากาศยานอย่างเป็นระบบ และยังคงงดการเสิร์ฟอาหารบนเครื่องบินตามสถานการณ์ในปัจจุบัน ซึ่ง CAAT ได้กำชับให้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
ผลการตรวจสอบในภาพรวมของทั้ง 2 ท่าอากาศยานพบว่าการจัดการโดยรวมเป็นไปตามมาตรฐาน มีจุดที่ต้องแก้ไขอยู่บ้าง ซึ่งทางท่าอากาศยานได้ให้ความร่วมมือในการปรับปรุงเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามในส่วนของผู้โดยสารที่จำเป็นต้องเดินทาง CAAT ขอความร่วมมือทุกท่านให้ปฏิบัติตามขั้นตอนในการเดินทางทางอากาศ ทั้งที่ท่าอากาศยานและในเครื่องบินอย่างเคร่งครัด และหากผู้โดยสารพบว่าตนเองมีความเสี่ยงขอให้หลีกเลี่ยงการเดินทางและดำเนินการตรวจหาเชื้อ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยควบคุมความเสี่ยงของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ CAAT หวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้โดยสารทุกท่านจะได้รับการบริการในการเดินทางด้วยความสะดวกและถึงจุดหมายปลายทางโดยสวัสดิภาพ