พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เดินทางเข้าปฏิบัติงานที่ทำเนียบรัฐบาลตามปกติ ได้เชิญ พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปส.ศปม.) เข้าพบเพื่อรายงานสถานการณ์ความมั่นคงตามแนวชายแดน โดยเฉพาะฝั่งตะวันตกที่มีชายแดนติดกับประเทศเมียนมา และชายแดนฝั่งตะวันออกที่ติดกับประเทศกัมพูชา ซึ่งต้องคุมเข้มการคัดกรอง และการลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย โดยเฉพาะขณะนี้ฝั่งชายแดนกัมพูชาสาธารณสุขรายงานว่า พบเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ อังกฤษระบาดในบริเวณดังกล่าวจึงต้องเพิ่มความเข้มคัดกรองโรคเป็นพิเศษ
รวมทั้งความคืบหน้าการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม เพื่อสนับสนุนกระทรวงสาธารณสุขในการรองรับผู้ป่วยโควิด-19 และการดูแลความมั่นคงในพื้นที่ควบคุมสูงสุด 18 จังหวัด และพื้นที่ควบคุม 59 จังหวัด หลัง ศบค.ยกระดับการควบคุมสถานการณ์ และมีผลบังคับใช้ไปแล้วเมื่อวานนี้
ด้าน พล.ท.คงชีพ ตันตระวานิช โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีในฐานะ รมว.กลาโหม ได้กำชับให้กองทัพ ประสานงานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย และ กระทรวงสาธารณสุข คงความเข้มงวดตามแนวชายแดนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในพื้นที่ได้มีการตั้งด่านคัดกรอง เพื่อขัดขวางขบวนการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎกมาย
รวมทั้งประสานกับกระทรวงสาธารณสุขในการบริหารจัดการโรงพยาบาลสนามทั้งหมดของกองทัพ โดยในส่วนโรงพยาบาลสนามของกองทัพเบื้องต้นมีทั้งหมด 3,000 เตียง และตั้งเป้าให้มีถึง 5,000 เตียง เช่น ที่เกียกกายก็สามารถรองรับผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรงต่อจากโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ขณะเดียวกันกองทัพทั่วประเทศได้เตรียมความพร้อมตั้งโรงพยาบาลสนามเอาไว้แล้วเช่นกัน และพร้อมสนับสนุนเตียง และ อุปกรณ์อื่นๆ ทันทีที่กระทรวงสาธารณสุขขอสนับสนุน
อย่างไรก็ตาม โรงพยาบาลในสังกัดของกองทัพทุกแห่งยังคงรับการรักษาผู้ป่วยทั่วไปตามปกติ แต่ก็ได้เตรียมความพร้อมไว้รักษาผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 และรักษาเจ้าหน้าที่ที่ป่วยจากการปฏิบัติหน้าที่ด้วย