นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบให้ บมจ.การบินไทย (THAI) เป็นสายการบินแห่งชาติเฉพาะภารกิจขนส่งผู้แสวงบุญพิธีฮัจย์ชาวไทย เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบียบในการขนส่งผู้แสวงบุญพิธีฮัจย์ชาวไทย ซึ่งกำหนดให้ต้องดำเนินการโดยสายการบินแห่งชาติ (National Carrier) ของประเทศไทย และราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบียฝ่ายละครึ่งหนึ่ง โดยไม่อนุญาตให้สายการบินของประเทศอื่น นอกจากสายการบินแห่งชาติของประเทศไทยและราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบียดำเนินการขนส่ง เว้นแต่จะได้รับการอนุญาตจากกรมการบินพลเรือนของราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย และให้ดำเนินการโดยรูปแบบเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (Charter Flight) เท่านั้น
แม้ว่าปัจจุบัน กระทรวงการคลังได้ปรับลดสัดส่วนการถือหุ้นใน THAI ลงเหลือ 47.86% ทำให้มีสถานภาพเป็นสายการบินของเอกชนเทียบเท่ากับสายการบินอื่น แต่ THAI ยังเป็นสายการบินเดียวที่รัฐเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ รวมทั้งที่ผ่านมา THAI ยังเป็นสายการบินเดียวที่ปฏิบัติภารกิจขนส่งผู้แสวงบุญพิธีฮัจย์ชาวไทย รวมทั้งการกำหนดให้สายการบินใดเป็นสายการบินแห่งชาติ ยังเป็นเรื่องทางนโยบายของแต่ละประเทศด้วย
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ 2564 สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม ได้รับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 รายการการจัดเที่ยวบินพิเศษเพื่อเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ จำนวน 46,477,000 บาทไว้แล้ว สำหรับในปีต่อๆ ไป กรมการปกครองจะจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป
ทั้งนี้ กรมการปกครองได้เตรียมจัดทำโครงการสนับสนุน THAI เพื่อจัดเที่ยวบินพิเศษขนส่งผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ที่เดินทางไป - กลับ ณ ท่าอากาศยานนราธิวาส ประจำปี พ.ศ. 2565 โดยสนับสนุนงบประมาณ จำนวน 46.48 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพื่อขนส่งผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ในส่วนที่เพิ่มเติมจากราคาบัตรโดยสารให้ THAI ในการจัดเที่ยวบินพิเศษสำหรับผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จากท่าอากาศยานนราธิวาสไปยังท่าอากาศยานของราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย จำนวน 9 เที่ยวบิน เที่ยวบินละ 287 คน รวมทั้งสิ้น 2,583 คน ทั้งขาไปและขากลับ ระหว่างเดือนพฤษภาคม - เดือนกันยายน 2565