พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทยว่า ปัจจุบันแม่น้ำโขงมีสภาวะผันผวนจากหลายปัจจัยส่งผลกระทบต่อประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมฝั่งโขง ซึ่งจากการคาดการณ์ของกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) พบว่า ปริมาณน้ำช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค.64 ซึ่งเป็นช่วงรอยต่อระหว่างฤดูแล้งกับฤดูฝนอาจเกิดการผันผวนของปริมาณน้ำในแม่น้ำโขงอีกครั้ง เนื่องจากปริมาณฝนในปีนี้จะมีมากและมาเร็วในช่วงต้นฤดูฝน ที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และกระทรวงการต่างประเทศ ดำเนินการประสานกับสาธารณรัฐประชาชนจีนเพื่อหาข้อสรุปร่วมกันในการบริหารจัดการน้ำจากแม่น้ำล้านช้างสู่แม่น้ำโขง พร้อมเร่งรัดให้มีการจัดทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการระหว่างไทยและ สปป.ลาว ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้หมายให้ สทนช.ศึกษาผลกระทบที่เกิดขึ้นในลำน้ำโขงอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง ร่วมกับภาคประชาชนและหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำแผนป้องกันและบรรเทาผลกระทบ เสนอต่อคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ให้ความเห็นชอบ และมีมติให้สำนักงบประมาณพิจารณาสนับสนุนงบประมาณในการทำกิจกรรมดังกล่าวด้วย
ด้านนายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการ สทนช. กล่าวว่า สทนช.จะนำมติของการประชุมในวันนี้ไปเร่งดำเนินการให้เกิดรูปธรรมอย่างชัดเจน และด้วยปีนี้เป็นปีที่ประเทศไทยได้ดำรงตำแหน่งประธานคณะมนตรีคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ปี 2564 จึงจะมีการผลักดันอย่างเต็มที่ในประเด็นท้าทายที่ต้องสานต่อและดำเนินการร่วมกัน อาทิ การแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการรุกล้ำของน้ำเค็ม การต่อสู้กับปัญหาด้านอุทกภัยและภัยแล้งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและอนาคต เป็นต้น
ขณะเดียวกันปีนี้ยังถือเป็นปีสำคัญที่ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะมนตรี ครั้งที่ 28 และการประชุมปรึกษาหารือร่วมกับหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา ครั้งที่ 26 ซึ่งคาดว่าจะสามารถจัดการประชุมได้ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 รวมถึงต้องมีการเตรียมการสำหรับการประชุมสุดยอดผู้นำลุ่มน้ำโขงตอนล่าง ครั้งที่ 4 ซึ่งคาดว่าจะจัดขึ้นในเดือนเมษายน 2565 อีกด้วย