นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย แจ้งว่า สมาคมผู้ค้าปลึกไทย และสมาคมศูนย์การค้าไทยตระหนักถึงความจำเป็นที่ต้องยกระดับมาตรการการเฝ้าระวังการระบาดของโควิดขึ้นอีกระดับหนึ่ง โดยสมาชิกสมาคมทั้งสองแห่งและภาคีเครือข่ายทั่วประเทศจะเพิ่มมาตรการเข้มข้นในการคัดกรองผู้บริโภคเข้าศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าในระดับสูงสุด โดยประกาศเลื่อนการเปิด-ปิดศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศ เป็นเวลา 11.00-20.00 น. ยกเว้นซุปเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์ท และร้านอาหารที่ตั้งในศูนย์การค้าจะยังคงให้บริการถึง 21.00 น. ส่วนร้านค้าสะดวกซื้อจะให้บริการตามเวลา 05.00-22.00 น. ทั้งนี้มีผลครอบคลุมเฉพาะพื้นที่สีแดง 18 จังหวัดเท่านั้น ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 25 เม.ย.จนถึงวันอาทิตย์ที่ 2 พ.ค.64 (ยกเว้นจะมีประกาศของจังหวัดระบุอื่นใดนอกเหนือจากนี้)
เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ในวันนี้มีอัตราการติดเชื้อทั่วโลกประมาณ 8 แสนคน และมีแนวโน้มยังคงอยู่ในอัตราที่สูง ขณะเดียวกันในวันเสาร์ที่ 24 เมยายน ประเทศไทยมียอดผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 2,839 ราช ซึ่งเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงสุดที่เคยปรากฏมานับแต่เกิดการแพร่ระบาดเมื่อปีที่แล้ว แสดงให้เห็นว่าการแพร่ระบาดมีความรุนแรงและเป็นวงกว้างกว่าระลอกที่ผ่านๆ มา จากข้อมูลการแพร่ระบาด สัปดาห์หน้า (25 เม.ย.-2 พ.ค.) จะเป็นช่วง peak ของความเสี่ยงสูงสุดแล้ว สองอาทิตย์หลังจากนั้นเป็นช่วงที่จะเห็นกราฟชัดเจนว่าจะชี้ขึ้นหรือชี้ลง อย่างไรก็ตาม สมาคมผู้ค้าปลึกไทย และสมาคมศูนย์การค้าไทย ยังคงงดกิจกรรมที่มีการรวมตัวของคนจำนวนมาก รวมถึงการให้พนักงาน ทำงานที่บ้าน (Work From Home) เพื่อเพิ่มศักยภาพให้ทุกหน่วยงานสามารถควบคุมการแพร่ระบาดระลอกใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ สมาคมผู้ค้าปลีกไทยและสมาคมศูนย์การค้าจะเป็นผู้นำให้เอกชนทุกภาคส่วนร่วมมือกันในการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ให้จบเร็วที่สุด