ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,839 ราย ประกอบด้วย ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 2,523 ราย และจากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 304 ราย และผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 12 ราย มาจากอินเดีย 7 ราย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 2 ราย บาห์เรน, โอมาน, สหรัฐอเมริกา ประเทศละ 1 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 8 ราย
รายที่ 1 (122) ชายไทย อายุ 48 ปี อยู่ที่จังหวัดสมุทรปราการ เป็นผู้ป่วยโรคอ้วน มีประวัติไปสถานบันเทิงย่านศรีนครินทร์
12 เม.ย.มีอาการไข้ เจ็บคอ ถ่ายเหลว
18 เม.ย.ตรวจพบเชื้อและปอดอักเสบ
22 เม.ย.เสียชีวิต
รายที่ 2 (123) หญิงไทย อายุ 83 ปี อยู่ที่กรุงเทพฯ เป็นผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และไขมันในเลือด มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยัน
14 เม.ย.มีอาการไข้ อ่อนเพลีย
18 เม.ย.ตรวจพบเชื้อ
22 เม.ย.เสียชีวิต
รายที่ 3 (124) ชายไทย อายุ 89 ปี อยู่ที่กรุงเทพฯ เป็นผู้ป่วยติดเตียงโรคมะเร็งลำไส้ มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยัน
22 เม.ย.มีอาการไข้ ไอ หายใจลำบาก
23 เม.ย.ตรวจพบเชื้อ และเสียชีวิต
รายที่ 4 (125) ชายไทย อายุ 63 ปี อยู่ที่กรุงเทพฯ เป็นผู้ป่วยความดันโลหิตสูงและเก๊าท์ มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยัน
11 เม.ย.มีอาการไข้
22 เม.ย.ตรวจพบเชื้อ
23 เม.ย.เสียชีวิต
รายที่ 5 (126) ชายไทย อายุ 68 ปี อยู่ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือด และหัวใจเต้นผิดจังหวะ มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยัน
10 เม.ย.มีอาการไข้
11 เม.ย.ตรวจพบเชื้อ
22 เม.ย.เสียชีวิต
รายที่ 6 (127) หญิงไทย อายุ 82 ปี อยู่ที่จังหวัดสมุทรปราการ เป็นผู้ป่วยโรงมะเร็งปากมดลูก และไตเรื้อรัง มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยัน
14 เม.ย.ตรวจพบเชื้อ
20 เม.ย.เสียชีวิต
รายที่ 7 (128) ชายไทย อายุ 75 ปี อยู่ที่จังหวัดนครสวรรค์ เป็นผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือด และต่อมลูกหมากโต มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยัน
9 เม.ย.มีอาการไอ เจ็บคอ ครั่นตัว
11 เม.ย.ตรวจพบเชื้อ
22 เม.ย.เสียชีวิต
รายที่ 8 (129) ชายไทย อายุ 62 ปี อยู่ที่จังหวัดนนทบุรี เป็นผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรัง มีประวัติไปสถานบันเทิง
18 เม.ย.มีอาการเหนื่อย
21 เม.ย.ตรวจพบเชื้อ
23 เม.ย.เสียชีวิต
ทั้งนี้ จำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศล่าสุดอยู่ที่ 53,022 ราย แบ่งเป็น ผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ 28,378 ราย ตรวจคัดกรองเชิงรุก 21,378 ราย ส่วนผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 3,266 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้ว 30,566 ราย เพิ่มขึ้น 377 ราย กำลังรับการรักษา 22,327 ราย อาการหนักต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ 113 ราย ยอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 129 ราย
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. กล่าวว่า สถานการณ์ในรอบสัปดาห์นี้พบการแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อนหรือคคลัสเตอร์ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ เช่น คลัสเตอร์ร้านอาหารที่จังหวัดสุโขทัย พบผู้ติดเชื้อ 21 ราย และเสียชีวิต 1 ราย โดยมีหลายสาเหตุ ได้แก่ การติดเชื้อในที่ทำงาน, การพบปะสังสรรค์และรับประทานอาหารร่วมกัน, การติดเชื้อภายในครอบครัว, การมั่วสุมทำกิจกรรมเสี่ยง, การรวมตัวทำกิจกรรม, การให้ข้อมูลไทม์ไลน์ที่คลาดเคลื่อน ดังนั้นจึงขอความร่วมมือประชาชนให้ดุแลตัวเองตามหลักสุขอนามัยอย่างเคร่งครัด, มาตรการป้องกันโรคในที่ทำงาน, การทำงานที่บ้าน, ให้ฝ่ายปกครองและตำรวจกวดขันการปฏิบัติตามข้อกำหนดของ ศบค.
ส่วนกรณีมีปัญหาผู้ติดเชื้อยังไม่สามารถหาเตียงนั้น ขณะนี้ยังมีผู้ตกค้างอยู่จำนวน 2,013 ราย เนื่องจากมีจำนวนมาก ซึ่งกรมการแพทย์จะโทรศัพท์ติดต่อเพื่อเร่งส่งตัวทุกรายไปยัง รพ.สนาม และ hospitel จำนวน 4 แห่ง หากมีอาการรุนแรงจะส่งต่อไปยัง รพ. ซึ่งเตียงผู้ป่วยนั้นในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีจำนวน 16422 เตียง ยังเหลือว่าง 5,347 เตียง
"ขณะนี้ยังอยู่ในช่วง 2 สองสัปดาห็ที่ ศบค.จะประเมินมาตรการที่ออกไป หากจะมีการยกระดับมาตรการอาจส่งผลกระทบ จึงต้องระมัดระวัง โดยอาจเป็นการยกระดับเฉพาะพื้นที่ ซึ่งฝ่ายยุทธศาสตร์กำลังพิจารณาข้อมูลอย่างรอบด้าน" นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
สำหรับสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกล่าสุดวันนี้ มียอดผู้ติดเชื้อสะสมรวมแล้ว 146,226,350 ราย เสียชีวิต 3,099,315 ราย โดยประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุด อันดับแรก สหรัฐอเมริกา 32,735,704 ราย อันดับสอง อินเดีย 16,602,456 ราย อันดับสาม บราซิล 14,238,110 ราย อันดับสี่ ฝรั่งเศส 5,440,946 ราย และอันดับห้า รัสเซีย 4,744,961 ราย โดยประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 105