ศูนย์บัญชาการสถานการณ์การระบาดโรคโควิด-19 จังหวัดเชียงใหม่มโดยนายทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในวันที่ 24 เมษายน 2564 พบผู้ป่วยรายใหม่ จำนวน 163 ราย รวมผู้ติดเชื้อสะสม 3,133 ราย ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลอีก 2,441 ราย มีผู้ติดเชื้อที่รักษาหายแล้ว 692 ราย มีผู้รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลสนามทุกแห่ง 1,845 ราย โรงพยาบาลปกติทั้งรัฐบาลและเอกชน 426 ราย รักษาตัวที่โรงพยาบาลต่างจังหวัด 40 ราย และอยู่ใน Hospitel จำนวน 69 ราย
โดยพบว่าการตรวจพบเชื้อในกลุ่มเสี่ยง จากจำนวนทั้งหมด 2,439 รายพบเชื้อ ร้อยละ 5.08 ซึ่งถือว่าลดลง แต่ตรวจพบเชื้อจากการตรวจในโรงพยาบาลประจำอำเภอเพิ่มมากขึ้น มีข้อมูลสรุปพบว่า การสัมผัสในสถานบันเทิงลดลงเหลือร้อยละ 45.9 การสัมผัสในครอบครัวเพิ่มร้อยละ 16.4 สัมผัสในชุมชนเพิ่มร้อยละ 10.7 และสัมผัสในที่ทำงานเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 10
จากการตรวจคัดกรองเชิงรุกในพื้นที่เสี่ยง ขณะนี้ตรวจไปแล้ว 2,610 ราย พบผลบวก 37 ราย คิดเป็นร้อยละ 1.42 โดยส่วนใหญ่เป็นมีผู้ที่ไม่มีอาการ ไม่ทราบว่าตนเองติดเชื้อ ดังนั้นทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ จึงต้องทำการตรวจเชิงรุกในพื้นที่เสี่ยงอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าไม่มีผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการหลงเหลือเป็นแหล่งโรคอยู่ในชุมชน
ด้านการระบาดเป็นกลุ่มก้อน หรือคลัสเตอร์ ในวันนี้ยังไม่พบคลัสเตอร์ใหม่ โดยคลัสเตอร์เดิมทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ขยายวงการค้นหากลุ่มเสี่ยง ซึ่งผลการตรวจในวันนี้พบผู้ติดเชื้อเพิ่มจากคลัสเตอร์ของเรือนจำกลางจำนวน 8 ราย คลัสเตอร์ศูนย์เด็กเล็กตำบลแม่คือ เพิ่มจำนวน 1 ราย และคลัสเตอร์งานศพที่อำเภออมก๋อย พบผู้ติดเชื้อเพิ่มจำนวน 10 ราย และมีไทม์ไลน์ของผู้ติดเชื้อจำนวนหนึ่งไปร่วมงานขึ้นบ้านใหม่ต่ออีก ซึ่งขณะนี้ทางทีมสอบสวนโรคประจำอำเภออมก๋อย ได้ทำการค้นหาผู้สัมผัสในงานเพิ่มขึ้นแล้ว และจะแจ้งผลการตรวจให้ทราบต่อไป
ด้านนายวีระพันธ์ ดีอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เผยว่า เมื่อ24 เม.ย.64 จังหวัดเชียงใหม่ ได้เชิญผู้นำทางศาสนาทุกศาสนาในจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมประชุมหารือกัน เพื่อขอความร่วมมือให้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรค เนื่องจากพบว่าเริ่มมีการแพร่ระบาดในสถานที่จัดกิจกรรรมทางศาสนาในจังหวัดเชียงใหม่ ทั้งนี้ขอให้อยู่ภายใต้มาตรการควบคุมโรคโดยเคร่งครัด เพื่อให้สถานการณ์ดีขึ้นในเร็ววัน
ที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ได้พิจารณาเรื่องการแพร่ระบาดในพื้นที่หมู่บ้าน ตำบล ซึ่งอยู่รอบนอกของอำเภอเมือง โดยอำนาจการสั่งการมอบให้นายอำเภอพื้นที่ ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรค ทั้งเรื่องการห้ามใช้อาคาร การห้ามเข้าออก โดยให้พิจารณาร่วมกับคณะกรรมการหมู่บ้าน เพื่อให้การควบคุมโรคระบาดในพื้นที่สามารถดำเนินการไปได้ด้วยการบูรณาการ
ที่ประชุมได้พิจารณาเรื่องการยกระดับการบังคับสวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยได้แสดงความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวาง โดยได้ข้อสรุปว่า เบื้องต้นจะมีการบังคับสวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่สาธารณะและที่มีการรวมกลุ่มกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ทั้งที่โรงเรียน บ้าน หรือสถานที่ที่มีการเฉพาะ ถือว่ามีความเสี่ยงที่จะมีการแพร่ระบาดเกิดขึ้น ซึ่งทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ จะได้มีการออกคำสั่งเพื่อให้ปฏิบัติไปแนวทางเดียวกันต่อไป