พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีการดำเนินคดีกับผู้ฝ่าฝืนไม่สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าออกจากเคหะสถานว่า ผลการจับกุมผู้ฝ่าฝืนไม่สวมหน้ากากอนามัย จำนวน 13 ราย ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด ประกอบด้วย
กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) 1 ราย ในพื้นที่ สน.ดุสิต เมื่อวันที่ 26 เม.ย. ดำเนินคดีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ปรับ 6,000 บาท, กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 จำนวน 2 ราย เมื่อวันที่ 25 เม.ย. ส่งฟ้องศาลแขวงอยุธยา ปรับคนละ 2,000 บาท, กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 2 จำนวน 2 ราย สภ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี เมื่อวันที่ 26 เม.ย. ปรับคนละ 6,000 บาท, บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 4 จำนวน 6 ราย สภ.ธาตุพนม เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ปรับคนละ 6,000 บาท จำนวน 5 คน ส่วนอีก 1 คน อยู่ระหว่างฟ้องศาล, บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 8 จำนวน 1 ราย สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 21 เม.ย. ส่งศาลแขวงสุราษฎร์ธานี ปรับ 2,000 บาท, บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 9 จำนวน 1 ราย สภ.เมืองปัตตานี เมื่อวันที่ 26 เม.ย. ส่งศาลแขวงปัตตานี ปรับ 1,000 บาท
ขณะที่จังหวัดที่ได้ออกประกาศกำหนดมาตรการให้ประชาชนใส่หน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้า เมื่ออยู่นอกเคหสถานเพิ่มเติม รวมบังคับใช้จำนวน 63 จังหวัดแล้ว
นอกจากนี้ ยังเน้นการจับกุมเรื่องการมั่วสุม และการฝ่าฝืน พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งเคสใหญ่ๆ ช่วงนี้เป็นกรณีของหาดใหญ่ ที่มีการจับกุมการมั่วสุมได้จำนวนมาก และมีการติดเชื้อ ทำให้ตำรวจต้องไปกักตัว รวมถึงจังหวัดชลบุรีมีการจับกุมเมื่อวันที่ 25 เม.ย. เรื่องการจัดปาร์ตี้ และการมั่วสุมเล่นการพนัน ฯลฯ โดยจะนำพ.ร.ก.ฉุกเฉิน และพ.ร.บ.ควมคุมโรคติดต่อ มาบังคับใช้
โดยผลการจับกุมการกระทำความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ระหว่างวันที่ 1-27 เม.ย. จับกุม 186 ครั้ง โดย 1-8 เม.ย. จับกุม 19 ครั้ง, 9-15 เม.ย. จับกุม 49 ครั้ง, 16-22 เม.ย. จับกุม 29 ครั้ง, 23-27 เม.ย. จับกุม 89 ครั้ง โดยเป็นความผิด การพนัน 53 ครั้ง มั่วสุม 15 ครั้ง ลักลอบเข้าเมือง 18 ครั้ง อื่นๆ 3 ครั้ง