นพ.เฉวตสรร นามวาท รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 เฉพาะในระลอกสามนี้ มีทั้งสิ้น 151 ราย คิดเป็น 0.38% ขณะที่ยอดผู้ที่หายป่วยเพิ่มขึ้นในระดับหลักพันต่อวัน โดยวันนี้มีผู้หายป่วยแล้ว 1,183 ราย
"ผู้ติดเชื้อรายใหม่ เพิ่มสูงก่อนหน้านี้และต้องใช้เวลารักษาในแต่ละคน ซึ่งการหายป่วยจะไต่ระดับจากพันคนขึ้นเป็นสองพันคน ตามระยะเวลา ถือเป็นสัญญาณที่ดี...ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิต คาดว่าจะอยู่ในระดับนี้ต่อเนื่องไปอีกสักพัก" นพ.เฉวตสรรกล่าว
สำหรับผู้เสียชีวิตจากโควิดในรอบนี้ที่มีจำนวนสูงติดต่อกันหลายวันนั้น นพ.เฉวตสรร กล่าวว่า เป็นเพราะมีฐานการรายงานผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นกว่ารอบอื่นๆ ประกอบกับมีความเกี่ยวข้องกับไวรัสโควิดสายพันธุ์อังกฤษเข้ามาจากคลัสเตอร์สถานบันเทิงย่านทองหล่อ จึงทำให้ระยะเวลาตั้งแต่ทราบว่าติดเชื้อจนถึงเสียชีวิตมีช่วงเวลาที่สั้นลง ซึ่งสอดคล้องกับผลการศึกษาของทางยุโรปที่ว่าไวรัสสายพันธุ์อังกฤษมีความรุนแรงสูงขึ้น อย่างไรก็ดี ทางแพทย์จะมีการติดตามปัจจัยและสาเหตุอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป
นพ.เฉวตสรร กล่าวด้วยว่า สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลยังอยู่ในระดับสูง ขณะที่ต่างจังหวัดสถานการณ์ค่อนข้างทรงตัว ทั้งนี้ หลังการสั่งปิดสถานบันเทิงและกิจการต่างๆ ชั่วคราว ทำให้คนอยู่บ้านมากขึ้น โอกาสของการสัมผัสใกล้ชิดกันภายในครอบครัวก็มีเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นจึงต้องเพิ่มการดูแลภายในครอบครัวและการปฏิบัติตามมาตรการสุขอนามัยส่วนบุคคลให้มีความเข้มงวดมากขึ้น
นอกจากนี้ การพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดจากการค้นหาเชิงรุกเริ่มมีจำนวนที่ลดลง ในขณะที่การพบผู้ป่วยที่มาจากการสัมผัสใกล้ชิดกับบุคคลในครอบครัว และเพื่อนร่วมงานยังมีเพิ่มสูงขึ้น ส่วนการพบจุดเสี่ยงซึ่งเป็นที่มาของการระบาดในกลุ่มก้อนต่างๆ ของแต่ละจังหวัดยังมาจากการทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น ในสถานศึกษา สถานปฏิบัติธรรม สถานบันเทิง สถานดูแลผู้สูงอายุ สถานที่จัดเลี้ยง การจัดงานประเพณี สำนักงาน ตลาด ร้านอาหาร เป็นต้น ดังนั้นจึงเป็นความจำเป็นที่ทำให้ต้องมีการออกมาตรการเพื่อลดหรือจำกัดการรวมตัวของผู้คน หรือการทำกิจกรรมร่วมกันของคนจำนวนมาก เพื่อป้องกันและยับยั้งโอกาสที่จะก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในวงกว้างมากขึ้น
"ภาพรวมสถานการณ์ในกทม.และปริมณฑล ยังมีการระบาดสูง ต้องติดตามสถานการณ์และดำเนินมาตรการที่เข้มข้น ส่วนต่างจังหวัดยังคงทรงตัว แต่ก็ยังไม่ควรวางใจ ช่วงนี้ต้องการความร่วมมือร่วมใจจากทุกคน ทุกคนอาจจะรู้สึกไม่ได้ผ่อนคลายมากนักจากมาตรการต่างๆ เราต้องร่วมใจกันสักพักหนึ่ง หากเห็นผลการระบาดลดลงอย่างรวดเร็ว ก็จะสามารถกลับมาผ่อนคลายใช้ชีวิตง่ายขึ้นอย่างเดิมได้" นพ.เฉวตสรร กล่าว
สำหรับจำนวนการได้รับวัคซีนต้านโควิดของประเทศไทย โดยยอดรับวัคซีนสะสมตั้งแต่ 28 ก.พ.-1 พ.ค.64 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,484,565 โดส แยกเป็น ผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 แล้ว 1,097,862 ราย และผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 แล้ว 386,703 ราย