นายอัมมาร สยามวาลา รักษาการประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย(TDRI) และสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) เสนอให้มีการออกกฎหมายห้ามไม่ให้ผู้ที่มีเงินมากกว่า 5 พันล้านบาทเล่นการเมือง เพราะส่วนใหญ่นักธุรกิจที่เข้ามาเล่นการเมืองก็เพื่อต้องการปกป้องผลประโยชน์ทางธุรกิจและที่สำคัญอาจเป็นเงินที่ได้มาโดยไม่สุจริต
ขณะที่พบว่าบุคคลในประเทศไทยที่มีเงินมากกว่า 5,000 ล้านบาท และได้มาจากมรดกของบิดามารดาหรือได้โดยสุจริตมีจำนวนไม่มากนัก และโดยทั่วไปมักไม่สนใจเล่นการเมือง แต่จะให้ความสำคัญกับการบริหารธุรกิจให้ขยายตัวอย่างต่อเนื่องมากกว่า
"ผู้ที่มีเงินเกิน 5,000 ล้านบาท เห็นว่าควรห้ามเล่นการเมืองเด็ดขาด หากมีใครมาเล่นแล้วผมรู้ ผมก็พร้อมที่จะดำเนินการถอดถอนเอง เพราะที่ผ่านมาเคยเห็นแล้วว่ามีเงินเกิน 5,000 ล้านบาท สามารถซื้อประเทศได้จริงๆ ที่พูดมาไม่ได้กล่าวหาใคร พูดในภาพรวม" นายอัมมาร กล่าวในงานเสวนาเรื่อง "อนาคตเศรษฐกิจไทยหลังเลือกตั้ง"
นายอัมมาร มองว่า รัฐบาลหน้าที่จะมาจากการเลือกตั้งมีข้อจำกัดมากขึ้นในการบริหารประเทศ เพราะเป็นรัฐบาลผสมจากหลายพรรคการเมือง และมีความน่าเป็นห่วงว่าพรรคที่ได้เป็นแกนนำรัฐบาลจะไม่สามารถนำนโยบายที่เคยหาเสียงมาบริหารงานได้ เนื่องจากพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคไม่เห็นด้วย ดังนั้นเศรษฐกิจในอนาคตยังอยู่ในช่วงที่ไม่มีความแน่นอน
ด้านนายศุภวุฒิ สายเชื้อ กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บล.ภัทร กล่าวว่า การเมืองไทยมีความไม่แน่นอนสูง เพราะยังประเมินได้ยากว่าพรรคการเมืองใดจะมาเป็นรัฐบาล แต่หากประเมินในขณะนี้เชื่อว่าจะเป็นรัฐบาลผสมหลายพรรคการเมือง และที่น่าเป็นห่วงคือพรรคการเมืองที่แข่งขันกันด้วยนโยบายยังมีน้อย
"พรรคการเมืองไทยที่มีการเสนอนโยบายเพื่อมาแข่งขันในขณะนี้ก็มีบ้าง ขณะเดียวกันพบว่าตอนนี้มีการแข่งขันการทางเมืองเพียง 2 ขั้วที่ชัดเจน และที่สำคัญแนวคิดก็ห่างกันมาก ทำให้เกิดการคาดการณ์เศรษฐกิจในอนาคตได้ยากมากว่าจะออกมารูปแบบใด" นายศุภวุฒิ กล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย รบฦ3/กษมาพร/ธนวัฏ โทร.0-2253-5050 ต่อ 325 อีเมล์: tanawat@infoquest.co.th--