ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,911 ราย ประกอบด้วย
- ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 1,749 ราย
- จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 153 ราย
- ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศผ่านการคัดกรองและเข้าสถานกักกัน 9 ราย มาจาก สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 ราย บราซิล 1 ราย ไอร์แลนด์ 1 ราย อิหร่าน 2 ราย สหราชอาณาจักร 1 ราย บังคลาเทศ 1 ราย มาเลเซีย 1 ราย กัมพูชา 1 ราย
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. กล่าวถึงข้อกังวลเกี่ยวกับสายพันธุ์บราซิลนั้น ยืนยันว่า ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศทุกคนจะต้องอยู่ในระบบ State Quarantine และได้รับการดูแลเป็นอย่างดี พร้อมขอให้เชื่อมั่นในระบบที่ทำมาปีกว่าแล้ว
- ผู้เสียชีวิตเพิ่ม 18 ราย เพศชาย 5 ราย เพศหญิง 13 ราย ส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหัวใจ ไขมันในเลือดสูงอ้วน ปอดเรื้อรังไทรอยด์ และมีปัจจัยเสี่ยงจากสัมผัสผู้ติดเชื้อที่เป็นคนในครอบครัว และผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า อายุเฉลี่ย 45-100 ปี อยู่ในกรุงเทพฯ 6 ราย สมุทรปราการ 3 ราย นนทบุรี เชียงใหม่และสมุทรสาครจังหวัดละ 2 ราย ปทุมธานี ยะลา สิงห์บุรี จังหวัดละ 1 ราย
ทั้งนี้ จำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศ ล่าสุดอยู่ที่ 76,811 ราย แบ่งเป็น ผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ 50,511 ราย ตรวจคัดกรองเชิงรุก 22,947 ราย ส่วนผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 3,353 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้ว 46,795 ราย เพิ่มขึ้น 2,435 ราย กำลังรับการรักษา 29,680 ราย อาการหนักปอดติดเชื้อ 1,073 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 356 ราย ยอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 336 ราย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า 10 จังหวัดอันดับแรกที่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สูงสุด ณ วันที่ 6 พ.ค.64 ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 739 ราย นนทบุรี 273 ราย สมุทรปราการ 143 ราย ชลบุรี 76 ราย สุราษฎร์ธานี 53 ราย นครปฐม 47 ราย อยุธยา 35 ราย ฉะเชิงเทรา 35 รายปทุมธานี 32 ราย และนครศรีธรรมราช 32 ราย
สำหรับในกทม. มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 15,309 ราย แนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แม้ไม่พุ่งสูงก็ตาม มีคลัสเตอร์สำคัญในขณะนี้คือ ชุมชนคลองเตย ชุมชนพัฒนาบ่อนไก่ และชุมชนบ้างขิง เขตบางแค
โดย 10 อันดับเขตที่มีผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุด นับสะสมตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.- 5 พ.ค. ได้แก่ ห้วยขวาง 463 ราย ดินแดง 426 ราย บางเขน 357 ราย จตุจักร 356 ราย วัฒนา 330 ราย ลาดพร้าว 325 ราย วังทองหลาง 300 ราย สวนหลวง 290 ราย บางกะปิ 282 ราย บางแค 241 ราย
สำหรับคลัสเตอร์สำคัญในเขตบางแค โดยได้ตรวจเชิงรุกในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในช่วง 28 เม.ย.ถึง 1 พ.ค. 1,413 ราย พบผู้ติดเชื้อ 68 ราย และตรวจที่ท่าปล่อยรถเมล์ ต้นทางสาย 7 ที่มีพนักงาน 100 คน พบผู้ติดเชื้อ 4 คน และได้ทำการตรวจเชื่อมโยงไปยังบ้านพักที่อยู่ในชุมชนบ้านขิง ซึ่งมีประชากร 1,000 คน ซึ่งเมื่อวันที่ 28 เม.ย.ได้รับแจ้งพบผู้ติดเชื้อ 30 ราย วันที่ 30 เม.ย. ได้ทำการ Swab 316 ราย พบผู้ติดเชื้อ 24 ราย และวันที่ 3 พ.ค. ได้ตรวจเชิงรุกอีก 576 ราย พบผู้ติดเชื้อ 25 ราย
นอกจากนี้ ผลการตรวจเชิงรุกในพื้นที่กทม. ระหว่างวันที่ 5 เม.ย.-5 พ.ค. ทั้งในสถานบันเทิง สถานประกอบการ ตลาด ชุมชน ห้างสรรพสินค้า รวม 42,251 ราย พบผู้ติดเชื้อ 1,677 ราย ซึ่งสะท้อนให้เห็นภาพว่า ในชุมชน ที่เข้าไปตรวจ 100 คน จะมีประมาณ 4 คนที่ติดเชื้อ การใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย รวมถึงการเว้นระยะห่างจึงมีความสำคัญ
นพ.ทวีศิลป์ ระบุว่า กทม.มีแผนการตรวจเชิงรุกใน 6 กลุ่มเขต ในวันที่ 5-11 พ.ค.นี้ โดยแบ่งเป็น กรุงเทพเหนือ ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพตะวันออก ที่สวน 70 พรรษา เขตมีนบุรี กรุงเทพกลาง ที่สนามกีฬาห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพใต้ ที่ลานกีฬาหน้าชุมชนวัดช่องลม เขตยานนาวา กรุงเทพเหนือ ที่สวนสาธารณะใต้สะพานพระราม 8 เขตบางพลัด และกรุงเทพใต้ ที่ เดอะมอลบางแค เขตบางแค โดยศูนย์บริการสาธารณสุข สำนักงานเขตในพื้นที่จะมีการตรวจสัปดาห์ละประมาณ 500 รายต่อแห่ง รวม 3,000 รายต่อวัน
และทาง กทม.จะมีการสุ่มตรวจตามบ้าน ประมาณ 250 ตัวอย่างต่อวัน รวมแล้วประมาณ 1,750 ตัวอย่างต่อสัปดาห์ และทางกทม.ได้รับความร่วมมือจาก โรงแรมธำรงอินน์ จรัญสนิทวงศ์ โรงแรม My Hotel ห้วยขวาง และโรงแรมแอมบาสเดอร์ สุขุมวิท ที่ให้เป็นสถานที่กักตัวสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง แต่ยังไม่ติดเชื้อและจำเป็นต้องแยกออกมาจากครอบครัว ซึ่งโดยรวมแล้ว มีแผนตรวจ 26,850 คนต่อสัปดาห์ ซึ่งกทม.ได้เตรียมเตียงรองรับผู้ป่วยไว้ 1,343 เตียงต่อสัปดาห์
นอกจากนี้ นพ.ทวีศิลป์ เปิดเผยว่า การประชุมวันนี้เป็นวันแรกที่มีการประชุมศูนย์บูรณาการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่กทม.และปริมณฑล โดยพล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) เป็นประธานในการประชุม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างกำลังประชุม แต่จะนำข้อสรุปในการประชุมบางส่วนมารายงาน และตั้งแต่วันที่ 7 พ.ค.เป็นต้นไป ทางศบค. จะปรับเวลาการแถลงข่าวเป็น 12.30 น. เพื่อเตรียมความพร้อมในการสรุปการประชุมในช่วงเช้าที่มีประมาณ 3-4 คณะ เพื่อและนำมารายงานให้ประชาชนรับทราบได้ทัน จากนั้นเวลา 13.15-13.45 น. จะเป็นการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงสาธารณสุข กรมควบคุมโรค ฝ่ายเศรษฐกิจ เป็นต้น เพื่อมาสื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชน เพื่อเป็นการบูรณาการนำเสนอข้อมูล และในบางวันเวลา 15.00 น. เลขาสมช.จะมีการไลฟ์สดเพื่อตอบคำถามและปัญหาต่างๆด้วย
ส่วนสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกล่าสุดวันนี้ มียอดผู้ติดเชื้อสะสมรวมแล้ว 155,820,246 ราย เสียชีวิต 3,255,270 ราย โดยประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุด อันดับแรก สหรัฐอเมริกา 33,321,244 ราย อันดับสอง อินเดีย 21,070,852 ราย อันดับสาม บราซิล 14,936,464 ราย อันดับสี่ ฝรั่งเศส 5,706,378 ราย และอันดับห้า ตุรกี 4,955,594 ราย โดยประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 99