โพลล์ชี้ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ยอมจ่ายภาษีเพิ่มช่วยรัฐแก้ปัญหาโลกร้อน

          ผลสำรวจซึ่งจัดทำโดย จีเอฟเค พับลิค แอฟแฟร์ และมหาวิทยาลัยเยล บ่งชี้ว่า ชาวอเมริกันเกือบ 75% เต็มใจที่จะจ่ายภาษีและค่าใช้จ่ายต่างๆเพิ่มขึ้นเพื่อสนับสนุนโครงการลดปัญหาโลกร้อน
          โดยผลสำรวจพบว่า ชาวอเมริกัน 74% จะสนับสนุนกฎหมายที่กำหนดให้บ้านก่อสร้างใหม่ทั้งหมดใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แม้ว่าจะต้องเพิ่มต้นทุนบ้านใหม่ขึ้นอีกราว 7,500 ดอลลาร์สหรัฐ
          ขณะที่ 72% ของผู้ตอบรับการสำรวจกล่าวว่า พวกเขาเห็นด้วยที่ทางการสหรัฐสนับสนุนเงินเพื่อจูงใจให้เจ้าของบ้านติดตั้งแผงกำเนิดพลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ในบ้านที่ก่อสร้างแล้ว นอกจากนี้ 71% ของผู้ตอบแบบสอบถามยินดีจ่ายเงินเพิ่มขึ้น 5 ดอลลาร์ต่อเดือนเป็นค่าภาษีอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสนับสนุนโครงการกระตุ้นเจ้าของบ้านให้เปลี่ยนเครื่องทำน้ำร้อน เครื่องปรับอากาศ หลอดไฟ และ ฉนวนกันความร้อน ที่มีอายุการใช้งานนานแล้ว
          ผู้ตอบแบบสอบถาม 69% ยินดีจะจ่ายเงินเพิ่มขึ้น 8.5 ดอลลาร์ต่อเดือนให้กับคณะกรรมการกำกับดูแลท้องถิ่นที่กำหนดให้มีการผลิตไฟฟ้าอย่างน้อย 20% จากพลังงานลม แสงอาทิตย์ และพลังงานสะอาดรูปแบบอื่นๆ
          อย่างไรก็ดี ชาวอเมริกัน 57% คัดค้านการเปลี่ยนแปลงกฎโซนนิ่งเขตเมือง เพื่อสนับสนุนการสร้างอพาร์ตเม้นท์ มากกว่าการสร้างบ้านเดี่ยว และอีก 64% ก็คัดค้านการเก็บเงินภาษีเมืองหรือท้องถิ่นอีก 10 เซนต์ในแก๊ซแต่ละแกลลอน เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนใช้พลังงานน้อยลง 
          "ผู้นำในเมืองและท้องถิ่นเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในความพยายามลดภาวะโลกร้อน และแน่นอนว่าทุกคนต้องการความเคลื่อนไหวเช่นนี้ ทุกคนพร้อมที่จะสนับสนุนการจ่ายเงิน สิ่งที่เหลือก็คือการลงมือปฏิบัติ" แอนโธนี ไลเซอร์โรวิทซ์ ผู้อำนวยการโครงการการเปลี่ยนแปลงของชั้นบรรยากาศโลกแห่งมหาวิทยาลัยเยล กล่าว