กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานสถานการณ์ความกดอากาศสูงที่ปกคลุมภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางมีกำลังอ่อน ประกอบกับลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ส่งผลให้เกิดฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง โดยในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา เกิดวาตภัยในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ ปทุมธานี พิจิตร อ่างทอง และปราจีนบุรี รวม 11 อำเภอ 25 ตำบล 51 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหาย 101 หลัง รอบสัปดาห์ในช่วงวันที่ 3 - 8 พ.ค. 64 เวลา 06.00 น. มีพื้นที่ประสบวาตภัย 47 จังหวัด 165 อำเภอ 480 ตำบล 1,525 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหาย 7,635 หลังส่วนตั้งแต่วันที่ 1 - 8 พ.ค. 64 เวลา 06.00 น. มีพื้นที่ประสบวาตภัย 51 จังหวัด 200 อำเภอ 556 ตำบล 1,704 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหาย 7,740 หลัง ผู้เสียชีวิต 3 ราย ผู้บาดเจ็บ 2 ราย (สุราษฎร์ธานี ลพบุรี และนครราชสีมา จังหวัดละ 1 ราย) ผู้บาดเจ็บ 2 ราย (สุราษฎร์ธานี 1 ราย นครราชสีมา 1 ราย) แยกเป็น
ภาคเหนือ 10 จังหวัด ได้แก่ กำแพงเพชร เชียงราย เชียงใหม่ ตาก แม่ฮ่องสอน พะเยา ลำปาง ลำพูน พิจิตร และพิษณุโลก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 16 จังหวัด ได้แก่ กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครพนม นครราชสีมา บุรีรัมย์ มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ สุรินทร์ อำนาจเจริญ อุดรธานี หนองบัวลำภู และอุบลราชธานี ภาคกลาง 15 จังหวัด ได้แก่ ชัยนาท พระนครศรีอยุธยา นนทบุรี ปทุมธานี ประจวบคีรีขันธ์ ราชบุรี ลพบุรี สิงห์บุรี สระบุรี สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สุพรรณบุรี อ่างทอง และอุทัยธานี ภาคตะวันออก 8 จังหวัด ได้แก่ จันทบุรี ชลบุรี ฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี ระยอง ตราด และสระแก้ว ภาคใต้ 2 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช
ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้วทุกจังหวัด ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยสำรวจและประเมินความเสียหายเพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังทั้งการชดเชยความเสียหายของบ้านเรือนเป็นวัสดุก่อสร้างหรือจ่ายเงินช่วยเหลือตามความเหมาะสม