นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยว่า พบการติดเชื้อโควิด-19 ของบริษัทเอกชนในคลัสเตอร์ของพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยมีผู้ติดเชื้อรวมสะสมจำนวน 105 ราย (5 เม.ย.-14 พ.ค.) แบ่งเป็น
- คลัสเตอร์ บมจ.การบินไทย (THAI) ระหว่าง 28 เม.ย. - 6 พ.ค. จำนวน 6 ราย, วันที่ 14 พ.ค. จำนวน 3 ราย
- คลัสเตอร์บริษัทเอกชน 47 ราย (วันที่ 5 เม.ย. จำนวน 2 ราย, วันที่ 10 พ.ค.-ปัจจุบัน 45 ราย)
- คลัสเตอร์บริษัทเอกชน วันที่ 26 เม.ย. จำนวน 3 ราย
- คลัสเตอร์ฝ่ายบริการการขนส่ง ระหว่าง 27 เม.ย.-7 พ.ค. จำนวน 34 ราย
- คลัสเตอร์ไปรษณีย์ ระหว่าง 23 เม.ย.- 5 พ.ค. จำนวน 12 ราย
นาวาอากาศโทสุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บมจ. ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (16 พ.ค.) เวลา 14.00 น.จะแถลงเกี่ยวกับสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 รวมถึงมาตรการที่ดำเนินการและมาตรการป้องกันสำหรับพนักงานที่ทำงานภายในสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสนามบินสุวรรณภูมิยังคงดำเนินการให้บริการผู้โดยสารและขนส่งสินค้าเป็นไปตามมาตรฐานโลก
นาวาอากาศโทสุธีรวัฒน์ กล่าวว่า ขณะนี้มี 4 คลัสเตอร์ที่ทำงานในสนามบินสุวรรณภูมิ มาจาก บมจ.การบินไทย (THAI), บริษัทเอกชน ที่มีกลุ่มก้อนผู้ติดเชื้อจำนวนมาก, ไปรษณีย์อากาศ และฝ่ายบริหารเขตปลอดอากร ของทอท. โดยกลุ่มพนักงานเก็บเงินค่าจอดรถมีผู้ติดเชื้อมากที่สุด ซึ่งได้ให้หยุดทำงานทั้งกะแล้ว
สำหรับสาเหตุที่มีการติดเชื้อ เกิดจากติดมาจากภายนอกสนามบิน โดยที่เริ่มเห็นผู้ติดเชื้อกลับจากเทศกาลสงกรานต์ เมื่อวันที่ 1 พ.ค. และย้ำว่า ตลอด 1 ปีกว่าที่เกิดการระบาดโควิด-19 ยังไม่มีการติดเชื้อภายในสนามบิน เพราะสนามบินสุวรรณภูมิมีการวางมาตรการป้องกันระดับโลก
"การันตี สนามบินสุวรรณภูมิ ถ้าไม่มีมาตรฐาน ไม่มีวินัย ที่มีคนเข้าประเทศทุกวัน และมีรายงานผู้ติดเชื้อทุกวัน แต่คนในสนามบินไม่มีใครติดเชื้อ"ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าว