นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้สำนักงานประกันสังคมเร่งสำรวจความต้องการการฉีดวัคซีนโควิด-19 แก่ผู้ประกันตนมาตรา 33 ในสถานประกอบการที่มีอยู่จำนวน 11 ล้านคน เพื่อทำให้ทราบข้อมูลตัวเลขที่แท้จริงว่าผู้ประกันตนต้องการฉีดวัคซีนทั้งหมดจำนวนเท่าใด และเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่แก่แรงงานในสถานประกอบการให้ได้ 70% ขึ้นไป เนื่องจากหากให้ลูกจ้างลงทะเบียนเอง นายจ้างจะไม่สามารถรู้ข้อมูลว่าลูกจ้างในสถานประกอบการฉีดวัคซีนไปแล้วเท่าใด เมื่อข้อมูลการฉีดวัคซีนของลูกจ้างในสถานประกอบการเดียวกันรวมกันไม่ถึง 70% ก็จะทำให้ไม่สามารถเกิดการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้ ซึ่งจะส่งผลในภาพรวมให้สามารถเร่งควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ให้เบาบางลงได้โดยเร็ว
นายสุชาติ กล่าวต่อว่า สำหรับแผนการกระจายวัคซีนไปให้ผู้ประกันตนในสถานประกอบการนั้น ขณะนี้ระบบ e-Service บนเว็บไซต์ www.sso.go.th ของสำนักงานประกันสังคม มีข้อมูลผู้ประกันตนมาตรา 33 จำนวนประมาณ 11 ล้านคน ได้ส่งข้อมูลมาแล้วประมาณ 6.5 ล้านคน ซึ่งผู้ประกันตนส่วนใหญ่ 80% ต้องการฉีดวัคซีน ที่เหลืออีก 20%ไม่ต้องการฉีด โดยกระทรวงแรงงานจะส่งข้อมูลเหล่านี้ให้กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นหน่วยงานที่กำกับวัคซีน
นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้ผู้อำนวยการสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครเขตพื้นที่ ทั้ง 12 เขต ได้ไปดำเนินการหาพื้นที่ที่จะฉีดวัคซีนเขตละ 2 แห่ง รวมทั้งสิ้น 24 แห่ง
"กระทรวงแรงงาน เรามีความพร้อมที่จะรับวัคซีนจากกระทรวงสาธารณสุข เพื่อมาดำเนินการเข้าไปฉีดวัคซีนให้กับแรงงานในสถานประกอบการเองได้ทันที"นายสุชาติ กล่าว