ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,302 ราย ประกอบด้วย
- ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 1,692 ราย
- จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 587 ราย
- ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 23 รายจากสวีเดน สหราชอาณาจักร ออสเตรีย เยอรมนี ฟิลิปปินส์ เมียนมา(ช่องทางธรรมชาติ) ประเทศละ 1 ราย กัมพูชา 14 ราย (ด่านข้ามแดนถาวรทางบก) และ มาเลเซีย 3 ราย (ด่านข้ามแดนถาวรทางบก)
- มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 24 ราย มาจากกรุงเทพมหานคร 8 ราย ชลบุรี ปทมธานี กาญจนบุรี จังหวัดละ 2 ราย เชียงใหม่ ศรีสะเกษ ราชบุรี สมุทรปราการ ขอนแก่น นครสวรรค์ พิจิตร ระยอง นครนายก พระนครศรีอยุธยา จังหวัดละ 1 ราย
ทั้งนี้ จำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศ ล่าสุดอยู่ที่ 101,447 ราย แบ่งเป็น ผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ 94,089 ราย จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 3,895 ราย ผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 3,463 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้ว 65,803 ราย เพิ่มขึ้น 2,136 ราย กำลังรับการรักษา 35,055 ราย มีอาการหนัก 1,228 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 408 ราย ยอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 589 ราย
ขณะที่ตัวเลขจากเรือนจำรายงานผู้ติดเชื้อ ล่าสุด 1.219 ราย เป็นตัวเลขที่จะรวมในวันพรุ่งนี้
พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 เปิดเผยว่า จำนวนผู้ติดเชื้อรายวัน ระลอกเมษายน 2564 (1 เม.ย.-16 พ.ค.64) มียอดสะสม 72,584 ราย โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางจากประเทศเพื่อนบ้านเมียนมา กัมพูชา และมาเลเซีย ที่ประชุมศบค.ชุดเล็กได้เป็นห่วง และให้กระทรวงแรงงานร่วมกับกรมควบคุมโรคตรวจสอบว่าชาวไทยอีกกี่รายที่มีความประสงค์จะเดินทางกลับเข้าประเทศ และได้มีการเตรียม Local Quarantine (LQ)
สำหรับจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันนี้ 10 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 1,218 ราย ปทุมธานี 243 ราย สมุทรปราการ 117 ราย นนทบุรี 103 ราย ประจวบคีรีขันธ์ 66 ราย ชลบุรี 48 ราย สมุทรสาคร 47 ราย สงขลา 37 ราย พระนครศรีอยุธยา 37 ราย และสุราษฎร์ธานี 27 ราย โดยกรุงเทพมหานครมีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมที่ 25,942 ราย
ในวันนี้มี 19 จังหวัดที่ไม่มีผู้ติดเชื้อ ส่วนจังหวัดที่มีผู้ป่วยติดเชื้อ 1-10 ราย มี 38 จังหวัด จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อ 11-50 ราย มี 15 จังหวัด จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อ 51-100 ราย คือ ประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อเกินกว่า 100 รายขึ้นไปได้แก่ กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี สมุทรปราการ และนนทบุรี
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล 5 จังหวัดคือ นนทบุรี สมุทรปราการ ปทุมธานี สมุทรสาคร และ นครปฐม มีผู้ติดเชื้อวันนี้รวม 1,744 ราย เทียบกับ 71 จังหวัดรวมกันมีจำนวน 535 ราย
ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กเป็นห่วงคือ คลัสเตอร์ที่ราชบุรี มีรายงานที่มีการติดเชื้อในโรงพยาบาลบ้านโป่ง พบว่าผู้ติดเชื้อยืนยันรายแรก เป็นหญิงอายุ 31 ปี มาเยี่ยมและเฝ้าแม่ที่ป่วยที่หอผู้ป่วยอายุรกรรมหญิง ในระหว่างวันที่ 22-28 เม.ย. และรายงานผลบวกในวันที่ 30 เม.ย. ซึ่งทำให้เกิดการตืดเชื้อไปยังผู้ป่วยรายอื่นในหอผู้ป่วยเดียวกัน 9 ราย รวมเจ้าหน้าที่ที่ดูแลในหอผู้ป่วยด้วย รวมแล้ว 17 ราย จากนั้นมีรายงานเพิ่มเติมว่า ผู้ป่วยที่ยืนยันติดเชื้อมีผู้เสียชีวิตถึง 4 ราย และมีการคัดกรองเชิงรุกพบว่า ผู้สัมผัสร่วมบ้าน รวมกับยอดผู้ป่วยเดิม เป็น 30 ราย
ในขณะนี้ได้มีการปิดหอผู้ป่วยอายุกรรมหญิงแล้วจนถึง 24 พ.ค. และจะคัดแยกผู้ป่วยโดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติโรคระบบทางเดินหายใจให้มีการแยกจากกลุ่มผู้ป่วยที่เจ็บป่วยด้วยโรคอื่น ทั้งนี้สิ่งที่สำคัญที่พบคือการที่ญาติเข้ามาเฝ้าผู้ป่วย พบพฤติกรรมญาติพูดคุยกัน มีการจับกลุ่มรวมทั้งมีการรับประทานอาหารร่วมกันในวอร์ด เมื่อมีการติดเชื้อก็ทำให้เกิดการแพร่ระบาดรวดเร็ว โดยจะมีมาตรการควบคุมให้อยู่ในพื้นที่จำกัด เป็นการถอดบทเรียนสำหรับทุกโรงพยาบาลที่เข้มงวดญาติผู้ป่วยที่มาเฝ้ามาดูแลผู้ป่วยในโรงพยาบาลด้วย
สำหรับเตียงในกทม. ที่น่าเป็นห่วงเป็นเตียงระดับแดงและระดับเหลือง ซึ่งเตียงสีแดงมีลักษณะตึงตัวพอสมควร โดยมีความต้องการเตียง Admit จำนวน 805 ราย (ณ 15 พ.ค.) โดยจำนวน Admit แล้ว 314 ราย
ส่วนวันนี้มีรายงานกทม.ดูแลคลัสเตอร์ทั้งหมด 27 คลัสเตอร์ กระจายทั้ง 17 เขต ได้แก่ ดินแดง วัฒนา คลองเตย หลักสี่ ลาดพร้าว ราชเทวีพระนคร ดุสิต ป้อมปราบศัตรูพ่าย สวนหลวง ปทุมวัน สาทร จตุจักร สัมพันธวงศ์ สีลม ประเวศ และวังทองหลาง ทั้งนี้ สำนักอนามัยรายงาน 7 คลัสเตอร์ อยู่ในภาวะควบคุมได้ดีพอสมควร แต่ที่เป็นห่วงและนำมาหารือในที่ประชุมศบค.ชุดเล็กมี 5 คลัสเตอร์สำคัญ ที่มีอัตราผู้ติดเชื้อยังคงเพิ่มรายวัน อันดับแรกคือแคมป์คนงานเขตหลักสี่ ต่อมา แฟลตดินแดง, แคมป์คนงานเขตวัฒนา, คลองถม วงเวียน 22 ป้อมปราบศัตรูพ่าย และตลาดห้วยขวาง ดินแดง ถตึถึทั้งนี้ กทม.จะได้มีการตรวจคัดกรองเชิงรุกให้ติดตามข่าวจากทม.ด้วย
นอกจากนี้ที่ประชุมยังเป็นห่วงในส่วนแคมป์คนงาน ซึ่งเมื่อปลายปี 63 มีการกระจายแคมป์คนงาน 393 แคมป์มีจำนวน 59,757 คน มีทั้งชาวไทยและจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยส่วนแคม์คนงานหลักสี่ ของบมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวลอปเม้นท์ (ITD) ตรวจ559 รายพบติดเชื้อ 482 ราย เมื่อ 15 พ.ค.คิดเป็น 86.22% และได้ปิดแคมป์คนงานแล้ว นอกจากนี้ยังได้ตรวจแคมป์คนงานในเครือทั้งหมดด้วย
กรมควบคุมโรคได้รายงานว่าจากการสอบสวนโรคพบว่า ความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนภายในแคมป์คนงานค่อนข้างหนาแน่น มีการใช้พื้นที่ส่วนกลางในหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำ ห้องส้วม จุดรับประทานอาหาร เป็นต้น รวมทั้งพฤติกรรมที่ยังเดินทางไปตลาดในชุมชน และพบว่ามีการเดินทางข้ามพื้นที่ เช่นจากหลักสี่ไปอยุธยา ที่ประชุมฯจึงกำหนดมาตรการกำหนดใช้ให้บริษัทรับทราบมาตรการที่แคมป์คนงานให้ความร่วมมือ โดยจัดที่พักอาศัย พื้นที่ส่วนกลางต้องมีการทำความสะอาด มีการจัดการเรื่องการระบายอากาศ และกำหนดความหนาแน่นพื้นที่สาธารณะ เช่นห้องน้ำ รวมทั้งห้ามการเคลื่อนย้ายแรงงาน หากมีความจำเป็นต้องขออนุญาต ขณะเดียวกันจะจัดอาหารและเครื่องอุปโภคบริโภค และจะมีการตรวจคัดแยกผู้ป่วย
ขณะที่สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกล่าสุดวันนี้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมรวมแล้ว 163,165,592 ราย เสียชีวิต 3,383,231 ราย โดยประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุด อันดับแรก สหรัฐอเมริกา 33,695,916 ราย อันดับสอง อินเดีย 24,683,065 ราย อันดับสาม บราซิล 15,590,613 ราย อันดับสี่ ฝรั่งเศส 5,863,839 ราย และอันดับห้า ตุรกี 5,106,862 ราย โดยประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 92