นายประสิทธิ์ เจียวก๊ก ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงประชาชน พร้อมทีมทนายความ นำพยานเอกสารหลักฐานเข้าพบ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) และพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายจับศาลอาญา คดีที่ร่วมกันกับพวกรวม 6 คน ฉ้อโกงประชาชน มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 1,000 ล้านบาท
นายประสิทธิ์ กล่าวว่า ได้เตรียมพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงมาชี้แจงกับพนักงานสอบสวน หลังถูกออกหมายจับร่วมกับพวกรวม 6 คนในคดีที่ร่วมกันฉ้อโกงฯ โดยมั่นใจว่ามีข้อมูลสามารถชี้แจงและต่อสู้คดีตามกฏหมายได้ เพราะสิ่งที่พูดไปทั้งหมดเป็นข้อเท็จจริง โดยมั่นใจว่าถูกกลั่นแกล้ง
ที่ผ่านมามีคดีความที่ตกเป็นผู้เสียหาย สูญเงินไปกว่า 100 ล้านบาท ยอมรับว่าที่ผ่านมา ปัญหาสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลกระทบกับธุรกิจการท่องเที่ยวของตัวเองอย่างมาก อีกทั้งยังถูกนำชื่อไปเชื่อมโยงกับประเด็นความขัดแย้งทางการเมืองด้วย จึงอยากให้สังคมแยกแยะระหว่างการระดมทุนทางธุรกิจ กับการทำธุรกิจแบบเครือข่าย ซึ่งส่วนตัวเชื่อมั่นว่ายังมีคนที่มั่นใจในตัวเองอยู่ และหากกระทำความผิดจริง ก็ต้องรับโทษตามกฎหมายอยู่แล้ว
อนึ่ง คดีนี้กองปราบปรามร่วมกับกองบังคับการปรามปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) และกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เปิดปฏิบัติการทะลายเครือข่ายนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก ประธานโครงการคืนคุณแผ่นดิน โดยเข้าตรวจค้นเป้าหมายรวม 9 จุด และสามารถจับผู้ถูกกล่าวหาไปได้แล้วจำนวน 4 คน
หลังมีผู้เสียหายแจ้งความว่า ถูกผู้ต้องหากลุ่มนี้หลอกลวงด้วยวิธีการหลายรูปแบบ เช่น ชักชวนให้ผู้เสียหายนำบัตรเครดิต หรือเงินสด มาลงทุนซื้อแพ็กเกจทัวร์ ชักชวนให้ลงทุนโดยให้โอนเงินฝากเข้าบัญชีสหกรณ์ออมทรัพย์ โดยอ้างผลตอบแทน 11.5-15% ต่อการลงทุนในระยะเวลา 39 วัน ผู้เสียหายบางรายถูกชักชวนให้ลงทุนซื้อทองคำ ลงทุนซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมเพื่อปล่อยเช่า เป็นต้น