ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,394 ราย ประกอบด้วย
- ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 1,625 ราย
- จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 254 ราย และจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 1,498 ราย
- ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 17 รายมาจากอินเดีย ฮ่องกง มัลดิฟส์ เกาหลีใต้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บาร์เรน ประเทศละ 1 ราย บังคลาเทศ 3 ราย และกัมพูชา 8 ราย โดยเข้ามาด่านข้ามแดนถาวร ทางบก 3 รายและลักลอบเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ 5 ราย
- มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 29 ราย เป็นเพศชาย 19 ราย เพศหญิง 10 ราย จากกรุงเทพมหานคร 14 ราย สมุทรปราการ 5 ราย ปทุมธานี 2 ราย ฉะเชิงเทรา ลำพูน ชลบุรี สระบุรี นครปฐม กำแพงเพชร หนองคาย และนนทบุรี จังหวัดละ 1 ราย อายุระหว่าง 42-92 ปี ส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันสูง ไตเรื้อรัง อ้วน และ สูงอายุ และมีปัจจัยเสี่ยงจากสัมผัสผู้ติดเชื้อที่เป็นคนในครอบครัว และผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า ไปสถานที่แออัด ตลาด โรงพยาบาล พื้นที่ระบาด และอาชีพเสี่ยง
พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าวว่า ในจำนวนผู้เสียชีวิตวันนี้ทั้ง 19 ราย พบว่า มี 4 ราย เสียชีวิตในวันเดียวกับวันที่ทราบผลว่าติดเชื้อโควิด-19 สะท้อนให้เห็นว่า มีอาการรุนแรง และไม่ทราบว่าตนเองเป็นผู้ติดเชื้อ เมื่อไปพบแพทย์ก็เสียชีวิตในวันเดียวกัน และมีจำนวน 13 ราย เสียชีวิตในช่วงระยะสัปดาห์แรกหลังทราบผลการติดเชื้อ
สำหรับจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศ ล่าสุดอยู่ที่ 116,949 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้ว 74,368 ราย เพิ่มขึ้น 4,450 ราย กำลังรับการรักษา 41,903 ราย ยอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 678 ราย
ส่วน 10 จังหวัดอันดับแรกที่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สูงสุดระลอกใหม่วันนี้ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 876 ราย สมุทรปราการ 153 ราย นนทบุรี 130 ราย ปทุมธานี 119 ราย เพชรบุรี 76 ราย สมุทรสาคร 57 ราย สงขลา 46 ราย ชลบุรี 39 ราย จันทบุรี 32 ราย ระนอง 25 ราย
ในกรุงเทพมหานคร ยังมีคลัสเตอร์ที่เฝ้าระวังอยู่ 34 คลัสเตอร์ โดยเป็นคลัสเตอรืเดิม 29 คลัสเตอร์ และวันนี้มีเพิ่มใหม่อีก 5 คลัสเตอร์ ประกอบด้วย ตลาดบางกะปิ, แคมป์คนงานก่อสร้าง เขตบางคอแหลม, โรงงานน้ำแข็ง เขตจตุจักร, แคมป์คนงานก่อสร้าง ที่ดอนเมือง และโกดังสินค้า ที่บางซื่อ
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ที่น่ากังวล คือ ในส่วนของแคมป์คนงานก่อสร้างที่บางเขต มีแคมป์คนงานมากกว่า 20 แคมป์ เช่นที่ เขตบางกะปิ บางเขน ลาดพร้าว ห้วยขวาง และในบางแคมป์มีจำนวนคนงานเกิน 1,000 คน
ทั้งนี้ ในที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กได้มีการหารือถึงการดูแลเฝ้าระวังแคมป์คนงานต่างๆ ซึ่งทางผอ.เขตจะลงพื้นที่เข้าไปพูดคุย ถึงมาตรการเข้มงวดในการบริหารจัดการต่างๆ เช่น การแยกกระติกและแก้วน้ำในการดื่ม และให้งดการเคลื่อนย้ายจำนวนคน รวมถึงบริษัทต้องจัดรถรับส่งแรงงานทั้งหมดในการเดินทาง และไม่อนุญาตให้มีการแวะพักและออกนอกเส้นทาง หากจะมีการเคลื่อนย้ายคนจะต้องมีการทำเรื่องแจ้งมายังผอ.เขต และสุดท้ายหากไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ ทางเขตมีอำนาจในการปิดแคมป์คนงานนั้นได้
ส่วนคลัสเตอร์ที่เป็นความเสี่ยงในจังหวัดต่างๆ ประกอบด้วย นนทบุรี ปทุมธานี คือ คลัสเตอร์ตลาด/ สมุทรปราการ อยู่ที่โรงงาน/เพชรบูรณ์ ขอนแก่น เป็นคลัสเตอร์ที่เกิดจากการสัมผัสผู้ป่วยยืนยัน/ระนองเป็นการคัดกรองเชิงรุกในแรงงานต่างด้าว และในบางจังหวัดยังคงมีการร้องเรียนเรื่องของการรวมกลุ่มการเล่นการพนัน และสูบบารากุ ซึ่งทาง ศบค. ขอให้ประชาชน ชุมชนและกระทรวงมหาดไทยเข้าไปตรวจตราการกระทำผิดเหล่านี้ด้วย
สำหรับการตรวจเชิงรุกในเรือนจำจะยังทำต่อเนื่องอีกประมาณ 2-3 วันและจะยังมีตัวเลขการรายงานจากเรือนจำในสัปดาห์นี้อย่างต่อเนื่อง และคาดว่า หลังจากนี้ภายใน 1 สัปดาห์ตัวเลขจากเรือนจำก็จะลดลงและหมดไป โดยในเรือนจำพิเศษกรุงเทพได้มีการตรวจ 3,021 ราย พบติดเชื้อ 2,908 ราย คิดเป็น 61% เรือนจำกลางของเปรม ทำการตรวจไป 8,087 ราย พบติดเชื้อ 1,538 คิดเป็น 15% เรือนจำบางขวาง ตรวจไปแล้ว 5,607 รายพบติดเชื้อ 598 รายคิดเป็น 6% ทั้งนี้ผู้ติดเชื้อที่อยู่ในเรือนจำ ซึ่งเป็นระบบปิดทำให้ไม่มีโอกาสการแพร่เชื้อมายังบริเวณด้านนอก และจะให้การดูแลตามมาตรฐานสาธารณสุขเช่นเดียวกับประชาชนทั่วไป พร้อมทั้งจะมีการระดมทีมแพทย์เข้าไปช่วยเหลือในเรือนจำแล้ว
ส่วนความคืบหน้าการฉีดวัคซีนทั่วประเทศ ได้ดำเนินการฉีดไปแล้ว 2,445,645 โดส แยกเป็น เข็มแรก 1,585,773 ราย และเข็มสอง 859,872 รายุ
พญ.อภิสมัย กล่าวถึง การบริหารจัดการวัคซีน รวมถึงการตั้งจุดฉีดวัคซีนว่า ให้ประชาชนติดตามข้อมูลการรายงานในแต่ละพื้นที่ เพราะแต่ละจังหวัดจะได้รับการกระจายวัคซีนตามจำนวนประชากร ซึ่งในส่วนของกทม. ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ซึ่งได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัย ศูนย์ประชุม สนามกีฬา ศูนย์การค้า โรงงาน มีการเสนอเรื่องเข้ามา และทางกทม. จะมีการประชุมและประกาศจุดที่สามารถฉีดวัคซีนในวันพรุ่งนี้ โดยยึดหลักที่ให้ประชาชนได้รับความสะดวกในการเข้ามาฉีดวัคซีนให้มากที่สุด
นอกจากนี้ที่ประชุมศบค.ได้มีการหารือถึงการกระจายวัคซีนให้ไปถึงกลุ่มคนเพิ่มเติม คือ พนักงานขนส่งอาหาร นอกเหนือจากพนักงานขับรถขนส่งสาธารณะด้วย รวมไปถึงนักเรียนไทยที่จะเดินทางกลับไปเรียนยังต่างประเทศ ซึ่งได้มีการประสานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อติดต่อกลุ่มนักเรียนเหล่านี้ เพื่อเข้ามาฉีดวัคซีนต่อไป
ส่วนสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกล่าสุดวันนี้ มียอดผู้ติดเชื้อสะสมรวมแล้ว 164,886,821 ราย เสียชีวิต 3,418,430 ราย โดยประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุด อันดับแรก สหรัฐอเมริกา 33,774,945 ราย อันดับสอง อินเดีย 25,495,144 ราย อันดับสาม บราซิล 15,735,485 ราย อันดับสี่ ฝรั่งเศส 5,898,347 ราย และอันดับห้า ตุรกี 5,139,485 ราย โดยประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 92