ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,636 ราย ประกอบด้วย
- ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 1,385 ราย
- จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 522 ราย และจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 671 ราย
- ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 58 ราย โดยกลุ่มก้อนใหญ่มาจากกัมพูชา 54 ราย ซึ่งในจำนวนนี้มี 7 รายที่เข้ามาตามช่องทางธรรมชาติ และมีอาชีพเป็นแอดมินออนไลน์ ส่วนอีก 4 รายที่เหลือมาจากสวิตเซอร์แลนด์ ญี่ปุ่น ตูนิเซีย มาเลเซีย ประเทศละ 1 ราย
- มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 25 ราย เป็นเพศชาย 18 ราย เพศหญิง 7 ราย อายุระหว่าง 41-94 ปี จากกรุงเทพมหานคร 11 ราย ปทุมธานี 3 ราย เชียงใหม่ 2 ราย ลำปาง ลำพูน ยโสธร ราชบุรี เพชรบูรณ์ สระบุรี ร้อยเอ็ด นครศรีธรรมราช สมุทรปราการ จังหวัดละ 1 ราย ส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันสูง ไตเรื้อรัง อ้วน และ สูงอายุ และมีปัจจัยเสี่ยงจากสัมผัสผู้ติดเชื้อที่เป็นคนในครอบครัว และผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า ไปสถานที่แออัด ตลาด โรงพยาบาล พื้นที่ระบาด และอาชีพเสี่ยง
จำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศ ล่าสุดอยู่ที่ 119,585 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้ว 76,636 ราย เพิ่มขึ้น 2,268 ราย กำลังรับการรักษา 42,246 ราย อาการหนัก 1,213 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 405 ราย ยอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 703 ราย
สำหรับ 10 จังหวัดอันดับแรกที่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สูงสุดระลอกใหม่วันนี้ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 1,001 ราย เพชรบุรี 124 ราย นนทบุรี 99 ราย ปทุมธานี 89 ราย ชลบุรี 65 ราย สมุทรปราการ 61 ราย สมุทรสาคร 57 ราย จันทบุรี 44 ราย นครปฐม 38 ราย พระนครศรีอยุธยา 30 ราย
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. กล่าวถึง สถานการณ์ในกรุงเทพมหานคร วันนี้พบคลัสเตอร์ใหม่ ในเขตบางพลัด เป็นแคมป์ก่อสร้าง บ.แสงฟ้า ทำให้มีคลัสเตอร์ที่มีการพบผู้ติดเชื้อทั้งหมด 36 คลัสเตอร์ โดยมี 28 คลัสเตอร์ที่ต้องเฝ้าระวัง ประกอบด้วย
-กลุ่มเฝ้าระวังสูงสุด
เขตดินแดง ตลาดห้วยขวาง และแฟลตดินแดง/เขตราชเทวี ประตูน้ำ ชุมชนริมคลอง แฟลตรถไฟมักกะสัน/เขตหลักสี่ แคมป์ก่อสร้าง/เขตดุสิต สี่แยกมหานาค สะพานขาว ตลาดต้นไม้/เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย คลองถมเซ็นเตอร์ เสือป่า วงเวียน 22 วรจักร โบ้เบ้/เขตคลองเตย ที่พักคนงานก่อสร้าง ตลาดคลองเตย ชุมชมแออัดคลองเตย/เขตบางรัก ที่สีลม/เขตสาทร ชาวกีนี/เขตพระนคร ปากคลองตลาด/เขตประเวศ ตลาดบุญเรือง/เขตบางกอกน้อย ตลาดศาลาน้ำร้อน/เขตห้วยขวาง ชุมชนโรงปูน/เขตบางเขน ตลาดยิ่งเจริญ/เขตบางคอแหลม แคมป์ก่อสร้าง/เขตจตุจักร โรงงานน้ำแข็ง/เขตดอนเมือง แคมป์ก่อสร้าง/เขตบางซื่อ โกดังสินค้าให้เช่า/เขตบางกะปิ ตลาดบางกะปิ
-กลุ่มเฝ้าระวัง
เขตวัฒนา แคมป์คนงานก่อสร้าง/เขตสวนหลวง ร้านเฟอร์นิเจอร์/เขตจตุจักร กรมราชทัณฑ์/เขตราชเทวี บริษัทไฟแนนซ์
-คลัสเตอร์พบใหม่
เขตบางพลัด แคมป์ก่อสร้าง บ.แสงฟ้า
-คลัสเตอร์ที่ควบคุมการแพร่ระบาดได้ จำนวน 8 แห่ง ประกอบด้วย
เขตทวีวัฒนา ชุมชมแออัด ซอยสุพจน์อุทิศ/เขตปทุมวัน ชุมชนบ่อนไก่/เขตสาทร บริษัทขายตรงตึกเอมไพร์/เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ชุมชนวัดโสมนัส/เขตสัมพันธวงศ์ สำเพ็ง/เขตจตุจักร บริษัทรถทัวร์/เขตลาดพร้าว บริษัทประกันลาดปลาเค้า/เขตสวนหลวง ชุมชนโมราวรรณ
ทั้งนี้ ทางกทม.ได้มีการรายงานข้อมูลล่าสุด (17 พ.ค.) พบว่า มีแคมป์คนงานก่อสร้างครบทั้ง 50 เขต รวม 409 แห่ง มีคนงานรวมทั้งหมด 62,169 คน เป็นคนไทย 26,134 คน คนต่างชาติ 36,035 คน ซึ่งต้องให้ผู้อำนวยการเขตทุกเขตต้องเข้าไปดูแล และต้องได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการด้วย
นอกจากนี้ นพ.ทวีศิลป์ เปิดเผยว่า ทางคณะที่ปรึกษาด้านการสาธารณสุข ได้เสนอเรื่องการดูแลแรงงานต่างด้าว ซึ่งมีการประมาณการตัวเลขแรงงานต่างด้าวที่ถูกกฏหมายในกทม.และปริมณทล ประมาณ 1.31 ล้านคน ส่วนแรงงานผิดกฏหมายประมาณการณ์ว่า มีเป็นล้านคน ซึ่งคณะที่ปรึกษาฯมองว่า หากไม่มีการจัดการจะเกิดเป็นปัญหาได้ เนื่องจากแรงงานผิดกฏหมายจะคอยหลบหนีอยู่บ่อย และมักไปอาศัยกับแรงงานต่างด้าวที่ถูกกฏหมายและไปเกาะกลุ่มรวมกัน นอกจากนี้มักจะอยู่ที่พักที่แออัด ซึ่งปัจจัยทั้งหมดจะนำมาสู่การควบคุมการแพร่ระบาดของโรคได้ยาก
คณะที่ปรึกษาฯจึงมีข้อเสนอให้มีศูนย์คัดแยกผู้ป่วยแรงงานต่างด้าวโดยเฉพาะ ในลักษณะ Camp Quaratine ซึ่งกทม.ควรรีบดำเนินการ เพราะหากพบผู้ติดเชื้อในแรงงานต่างด้าว จะต้องมีที่รักษาดูแลด้วย และควรมีการดำเนินการขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องตามกฏหมาย เพื่อให้สามารถเข้าสู่ระบบจ้างงานถูกต้องตามกฏหมายได้
ส่วนความคืบหน้าการฉีดวัคซีนทั่วประเทศ ได้ดำเนินการฉีดไปแล้ว 2,540,116 โดส แยกเป็น เข็มแรก 1,647,871 ราย และเข็มสอง 892,245 ราย
ส่วนสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกล่าสุดวันนี้ มียอดผู้ติดเชื้อสะสมรวมแล้ว 165,550,534 ราย เสียชีวิต 3,431,513 ราย โดยประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุด อันดับแรก สหรัฐอเมริกา 33,802,324 ราย อันดับสอง อินเดีย 25,771,405 ราย อันดับสาม บราซิล 15,815,191 ราย อันดับสี่ ฝรั่งเศส 5,917,397 ราย และอันดับห้า ตุรกี 5,151,038 ราย โดยประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 92