กลุ่มหมอไม่ทน ออกแคมเปญล่ารายชื่อประชาชน ผ่าน ww.change.org เพื่อร่วมกดดันองค์การเภสัชกรรม กระทรวงสาธารณสุข และรัฐบาลให้ปลดล็อกวัคซีนทุกยี่ห้อ และยกเลิกการควบคุมอำนาจบริหารจัดการไว้ตามลำพังก่อนที่จะสายเกินไป
รัฐบาลต้องรีบเปิดเผยข้อมูลเรื่องการจัดซื้อวัคซีนให้โปร่งใส และเร่งเปิดให้วัคซีนทางเลือกอื่นนอกเหนือจากซิโนแวกและแอสตร้าเซนเนก้ามาให้ประชาชนได้เลือก เพื่อใช้ในกรณีที่ต้องฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิซ้ำเข็มที่ 3 และ 4 ในอนาคต หรือเตรียมตัวในกรณีที่วัคซีนที่ฉีดไปแล้วไม่สามารถป้องกันเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ๆ ได้ เพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อ ควบคุมวิกฤตขณะนี้
ขณะนี้ประเทศไทยมีการฉีดวัคซีนครบทั้งสองเข็มให้แก่ประชาชนเพียง 1-2% ของประชากรไทยทั้งหมด โดยวัคซีนที่ได้รับรองมีเพียง 2 ยี่ห้อ โดยจำนวนวัคซีนที่จองมาทั้งหมดก็ยังไม่เพียงพอเพื่อลดการระบาดของโรคและสร้างความมั่นใจในการใช้ชีวิตแก่ประชาชน
ที่ผ่านมา มีการเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดช่องทางการนำเข้าวัคซีนทางเลือกผ่านโรงพยาบาลเอกชน เพื่อแก้ปัญหาความล่าช้าจากการจัดการของรัฐบาล แต่ภาครัฐกลับตอบรับโดยการให้ทางเอกชนซื้อวัคซีนผ่านทางองค์การเภสัชกรรม ทำให้ประชาชนจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง ทั้งๆ ที่ไม่ควร รวมถึงอาจจะต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
อีกทั้งยังไม่มีความแน่ชัดทั้งราคาและปริมาณที่จะนำเข้า ที่สำคัญที่สุดคือไม่มีคำตอบชัดเจนถึงเหตุผลว่าทำไมวัคซีนทางเลือกจะนำเข้าได้เร็วที่สุดในเดือน ต.ค.64 โดยยังเป็นกำหนดที่ไม่แน่นอนและช้าเกินไป สวนทางกับจำนวนผู้ติดเชื้อ ผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้น และเตียงผู้ป่วยในโรงพยาบาลที่กำลังจะถึงขีดจำกัดในการดูแลผู้ป่วยแล้วทั้งสิ้น จนถึงจุดวิกฤติที่สาธารณสุขไทยใกล้ล่มสลายแล้ว
หมอไม่ทน ยืนยันว่าประชาชนทุกคนควรได้รับวัคซีนเร็วที่สุดไม่ว่าเป็นชนิดใดก็ตาม เพื่อลดอาการติดเชื้อรุนแรงและการเสียชีวิต และประชาชนต้องมีสิทธิและเสรีภาพในการเลือกวัคซีนที่ดีที่สุดให้กับตนเองเช่นเดียวกัน