ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,382 ราย ประกอบด้วย
- ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 1,325 ราย
- จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 1,592 ราย และจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 460 ราย
- ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 5 ราย มาจากมาเลเซีย 4 ราย เดินทางถึงไทย 18 พ.ค.64 ผ่านเส้นทางธรรมชาติ เป็นเพศหญิง 4 ราย อายุ 7-34 ปี สัญชาติไทย 4 ราย อาชีพนักเรียน 3 ราย แม่บ้าน 1 ราย ตรวจพบเชื้อไม่มีอาการในวันที่ 19 พ.ค.64 เข้าโรงพยาบาลรือเสาะ 1 ราย และโรงพยาบาลสนาม จ.ยะลา 3 ราย นอกจากนี้มาจากกัมพูชา 1 ราย เดินทางถึงไทย 21 พ.ค.64 มาทางด่านข้ามแดนถาวร (ทางบก) เป็นเพศชาย อายุ 22 ปี สัญชาติไทย อาชีพแอดมินออนไลน์ พบเชื้อ มีอาการ ในวันที 21 พ.ค.64 เข้าพักที่โรงพยาบาลอรัญประเทศ
- มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 17 ราย เป็นชาย 13 ราย หญิง 4 ราย อายุ 38-85 ปี อยู่ในกรุงเทพฯ 15 ราย สงขลา และเชียงใหม่ จังหวัดละ 1 ราย ส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไตเรื้อรัง ไขมันในเลือดสูง โรคปอดเรื้อรัง มะเร็ง โรคหัวใจ โรคอ้วน และไม่มีโรคประจำตัว 2 ราย ส่วนสาเหตุติดเชื้อมาจากคนในครอบครัว คนอื่น ๆ (เพื่อน คนในชุมชน ทานอาหารร่วมกัน พนักงานรักษาความปลอดภัย) อาศัย/เดินทางเข้าไปในพื้นที่ระบาด (ขับแท็กซี่) และไปในที่คนหนาแน่น (ขายของในตลาดนัด)
สำหรับจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศตั้งแต่ปี 63 ถึง ล่าสุดอยู่ที่ 129,500 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้ว 84,535 ราย เพิ่มขึ้น 2,131 ราย กำลังรับการรักษา 44,189 ราย ยอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 776 ราย
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค.กล่าวว่า วันนี้ 241 เป็นผู้ลักลอบเข้าเมือง ซึ่งเป็นตัวเลข 200 กว่ามาสองวันแล้ว จึงได้ขอให้เพิ่มมาตรการเป็น 2 ระดับ คือ ระดับที่ 1 คือผู้ที่ทำหน้าที่อยู่แนวขอบชายแดน คือฝ่ายมั่นคง และก็ตำรวจ รวมถึงตำรวจตะเวณชายแดนด้วย ขอให้เพิ่มกำลัง และเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ให้มากขึ้น หรืออาจตั้งด่าน 2 แนว 3 แนว ตั้งด่านให้เพิ่มขึ้น
ส่วนที่สองเป็นส่วนของมหาดไทยจะดูแลจังหวัดที่อยู่ชายแดน และพื้นที่ชั้นในที่มีการใช้แรงงานอุตสาหกรรม อย่างสมุทรสาคร เป็นจุดปลายทางของผู้ที่ลักลอบเข้าเมืองและเข้ามาทำงาน ตรงนี้จะต้องมีการตรวจสอบมากขึ้น และมีบทลงโทษ ทั้งผู้ที่ลักลอบ และผู้ที่นำพาเข้ามา ทำให้เห็นกันอย่างชัดเจน ไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง
ทั้งนี้ คัสเตอร์ที่ต้องเฝ้าระวังมี 30 แห่ง ซึ่งที่พบใหม่เป็นแคมป์ก่อสร้างในพื้นที่บางกะปิ โดยกลุ่มเฝ้าระวังสูงสุด ตลาดบางกะปิ, แคมป์ก่อสร้างที่หลักสี่, ตลาดคลองเตย/ชุมชนแออัดคลองเตย แคมป์ก่อสร้างในพื้นที่คลองเตย, ตลาดห้วยขวาง, แฟลตดินแดงฅ ชุมนุมโรงปูน, แคมป์ก่อสร้างในพื้นที่ห้วยขวาง, บางรัก แคมป์ก่อสร้าง สีลม, สาธร ชาวกีนี, ดุสิต สี่แยกมหานาค/สะพานขาว/ตลาดผลไม้, ป้อมปราบศัตรูพ่าย คลองถมเซ็นเตอร์/เสือป่า/วงเวียน 22/วรจักร/โบ๊เบ๊, พระนคร ปากคลองตลาด, บางกอกน้อย ตลาดศาลาน้ำร้อน, ราชเทวี ประตูน้ำ/ชุมชนริมคลอง/แฟลตรถไฟมักกะสัน, บางซื่อ โกดังสินค้าให้เช่า, บางเขน ตลาดยิ่งเจริญ, บางพลัด แคมป์ก่อสร้าง, บางคอแหลม แคมป์ก่อสร้าง, ปทุมวัน แคมป์ก่อสร้าง, ดอนเมือง แคมป์ก่อสร้าง, สวนหลวง ร้านเฟอร์นิเจอร์, จตุจักร โรงงานน้ำแข็ง, สัมพันธวงศ์ สำเพ็ง
ด้านนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 83 ราย ที่ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นสายพันธุ์ South Africa โดยเป็นเพศชาย สัญชาติไทย อายุ 32 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัว มีประวัติเสี่ยง มีภรรยาชาวมาเลเซีย เดินทางมาพร้อมมารดาของผู้ป่วยและบุตร ผ่านช่องทางธรรมชาติเพื่อมาเยี่ยมและพักในประเทศไทยในช่วงวันที่ 12 เม.ย.-4 พ.ค.2564 และได้เดินทางกลับไปประเทศมาเลเซียแล้ว
ทั้งนี้ มาตรการควบคุมป้องกันโรคที่ดำเนินการแล้ว และได้มีผลดำเนินการดังนี้ พบผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 698 ราย ค้นหาเชิงรุกในพื้นที่ 160 ราย พบผู้ติดเชื้อรวม 83 ราย ยังไม่พบผู้เสียชีวิต และหายป่วยแล้ว 16 ราย กำลังรักษา 67 ราย ซึ่งพบสายพันธุ์แอฟริกาใต้ 3 ราย ขณะนี้หายป่วยแล้ว โดยผู้ป่วยอาการน้อย จะอยู่ที่โรงพยาบาลชุมชน 35 ราย และโรงพยาบาลสนาม 41 ราย ส่วนผู้ป่วยอาการปานกลาง จะอยู่ที่โรงพยาบาลนราธิวาง 7 ราย ซึ่งมาตรการป้องกันการระบาดของโรคได้มีการปิดการเข้าออกตำบลเกาะสะท้อน ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา และมีการตั้งด่านตรวจที่หมู่บ้าน 4, 7, 8, 9 รวมถึงเปิด Local Quarantine เพิ่มเติมกรณีพบผู้สัมผัสเสี่ยงสูง และผู้ลักลอบเข้าพื้นที่ พร้อมประเมินติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ขณะที่สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกล่าสุดวันนี้ มียอดผู้ติดเชื้อสะสมรวมแล้ว 167,041,380 ราย เสียชีวิต 3,468,663 ราย โดยประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุด อันดับแรก สหรัฐอเมริกา 33,882,333 ราย อันดับสอง อินเดีย 26,528,846 ราย อันดับสาม บราซิล 16,047,439 ราย อันดับสี่ ฝรั่งเศส 5,593,962 ราย และอันดับห้า ตุรกี 5,178,648 ราย โดยประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 88