นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศแจ้งว่า หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณด้านตะวันออกของอ่าวเบงกอล รวมถึงมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมภาคใต้ฝั่งตะวันตกและทะเลอันดามัน ทำให้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ขณะที่คลื่นลมในทะเลอันดามันมีกำลังแรง ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2-3 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
ดังนั้น ปภ.ได้ประสาน 6 จังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ฝั่งตะวันตกเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และคลื่นลมแรง ในช่วงวันที่ 23-28 พ.ค.64 แยกเป็น
สถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ดังนี้ ระนอง (อำเภอละอุ่น และอำเภอกะเปอร์) พังงา (อำเภอตะกั่วป่า และอำเภอคุระบุรี) ภูเก็ต (อำเภอเมืองภูเก็ต อำเภอกระทู้ และอำเภอถลาง) กระบี่ (อำเภอเขาพนม อำเภอปลายพระยา และอำเภอลำทับ) ตรัง (อำเภอเมืองตรัง อำเภอนาโยง อำเภอย่านตาข่าว อำเภอกันตัง อำเภอห้วยยอด อำเภอปะเหลียน และอำเภอวังวิเศษ) สตูล (อำเภอควนโดน อำเภอควนกาหลง อำเภอมะนัง และอำเภอทุ่งหว้า)
สถานการณ์คลื่นลมแรง ดังนี้ ระนอง (อำเภอเมืองระนอง อำเภอกะเปอร์ และอำเภอสุขสำราญ) พังงา (อำเภอเกาะยาว อำเภอตะกั่วป่า อำเภอตะกั่วทุ่ง อำเภอคุระบุรี และท้ายเหมือง) ภูเก็ต (อำเภอเมืองภูเก็ต อำเภอกระทู้ และอำเภอถลาง) กระบี่ (อำเภอเมืองกระบี่ อำเภออ่าวลึก อำเภอเหนือคลอง อำเภอคลองท่อม และอำเภอเกาะลันตา) ตรัง (อำเภอกันตัง อำเภอสิเกา อำเภอปะเหลียน และอำเภอหาดสำราญ) สตูล (อำเภอเมืองสตูล อำเภอละงู อำเภอมะนัง และอำเภอทุ่งหว้า)
รวมถึงสั่งการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยในช่วงดังกล่าว โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน พร้อมวิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงและแนวโน้มสถานการณ์ภัยต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภัย ทั้งที่ลาดเชิงเขา พื้นที่ลุ่มต่ำ พื้นที่ชุมชนเมือง รวมถึงจัดชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) รถปฏิบัติการและเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้พร้อมเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันที อีกทั้งประสานหน่วยงานในพื้นที่อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสร้างการรับรู้และแจ้งเตือนประชาชนติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด ตลอดจนประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้มงวดมาตรการความปลอดภัยทางทะเล โดยเพิ่มการติดตั้งสัญญาณแจ้งเตือนภัยบริเวณชายฝั่งทะเล จัดเตรียมเครื่องมือประจำเรือและอุปกรณ์ช่วยชีวิตทางน้ำให้พร้อมใช้งาน อีกทั้งหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง