บมจ.ท่าอากาศยานไทย(AOT) เผยหลังจัดระเบียบขนส่งในสนามบินสุวรรณภูมิแล้วมีแนวโน้มผู้โดยสารใช้บริการรถแท็กซี่เพิ่มขึ้นเนื่องจากได้รับความสะดวกสบาย และช่วยแก้ปัญหารถแท็กซี่เถื่อนให้ลดลง หวังให้เป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิติดอันดับ 1 ใน 10 สนามบินที่มีบริการดีที่สุดของโลก
"รถแท็กซี่ถือเป็นส่วนหนึ่งของงานบริการในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และเป็นด่านแรกที่นักท่องเที่ยวและผู้โดยสารจะได้สัมผัส หากมีบริการที่ดีนักท่องเที่ยวก็จะรู้สึกประทับใจและจะช่วยผลักดันให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นท่าอากาศยานที่มีบริการดีเด่นติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกภายในปี 2552" นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการ ทสภ.กล่าว
ล่าสุด AOT ได้มอบประกาศนียบัตรแก่ผู้ขับขี่รถแท็กซี่จำนวน 6,000 คนที่ผ่านการอบรมหลักสูตรความรู้ภาษาอังกฤษ วินัยจราจร การปฐมพยาบาล และการให้บริการ พร้อมปรับระเบียบใหม่ โดยให้รถแท็กซี่เข้ามารอรับผู้โดยสารที่ชั้น 2 อาคารผู้โดยสาร จากเดิมที่ให้รอรับผู้โดยสารที่ชั้น 1
"ปริมาณผู้ใช้รถโดยสารแท็กซี่เพิ่มขึ้น และช่วยแก้ปัญหารถแท็กซี่เถื่อนให้ลดลง เพราะผู้โดยสารได้รับความสะดวกมากขึ้น เมื่อออกจากอาคารผู้โดยสารก็สามารถเข้ามาใช้บริการรถแท็กซี่ได้ทันที" นายเสรีรัตน์ กล่าว
ด้านนายขจรศักดิ์ กาสิงห์ รองประธานชมรมแท็กซี่ ทสภ.กล่าวว่า ปัจจุบันผู้โดยสารมาใช้บริการรถแท็กซี่เพิ่มขึ้นประมาณ 40% หลังปรับระเบียบใหม่ ทำให้นักท่องเที่ยวที่ออกจากอาคารผู้โดยสารมาใช้บริการได้ทันทีไม่ต้องเดินลงไปที่ชั้น 1 เหมือนเดิม และทำให้มีรถแท็กซี่เถื่อนเข้ามาแย่งผู้โดยสาร
นายขจรศักดิ์ กล่าวว่า ทางชมรมฯ เตรียมเสนอให้ AOT ปรับเพิ่มค่าธรรมเนียมการใช้บริการเป็น 100 บาท จากเดิม 50 บาท เนื่องจากประสบปัญหารายได้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย เพราะการเข้าคิวรอรับผู้โดยสารที่ ทสภ.ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง แต่รายได้จากผู้โดยสารบางรายไม่มากเพราะเดินทางระยะใกล้
นอกจากนี้ยังเตรียมเสนอให้กรมการขนส่งทางบกปรับอัตราค่าบริการรถแท็กซี่มิเตอร์ เนื่องจากราคาค่าโดยสารในปัจจุบันอยู่ที่เฉลี่ยกิโลเมตรละไม่ถึง 4 บาท แต่ต้นทุนเชื้อเพลิงอยู่ที่กิโลเมตรละประมาณ 1.50 บาท ซึ่งค่าโดยสารของรถแท็กซี่ไม่ได้ปรับมานานแล้ว
--อินโฟเควสท์ โดย คคฦ/ธนวัฏ/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--