ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 2,455 ราย แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 1,976 ราย และจากเรือนจำ 479 ราย มีผู้เสียชีวิต 41 ราย และรักษาหายกลับบ้านแล้ว 2,571ราย ทำให้มีจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศระลอกใหม่อยู่ที่ 109,031 ราย หายป่วยสะสม 64,339 ราย
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ระบุว่า ยอดผู้ป่วยที่เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 ในวันนี้อยู่ที่ 41 ราย ถือว่าเป็นยอดเสียชีวิตต่อวันสูงสุดนับตั้งแต่มีการระบาดในประเทศไทย แบ่งเป็น เพศชาย 25 ราย และเพศหญิง 16 ราย อายุระหว่าง 29-66 ปี ค่าเฉลี่ยที่ 66 ปี ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง, เบาหวาน, ไขมันในเลือดสูง, ไตเรื้อรัง, โรคหัวใจ, โรคปอดเรื้อรัง เป็นต้น ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อความรุนแรงของโรคโควิด นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น การติดเชื้อจากคนในครอบครัว, เพื่อนร่วมงาน, การเดินทางเข้าไปในพื้นที่ระบาด รวมทั้งมีอาชีพเสี่ยง เป็นต้น โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ของวันนี้ อยู่ในกรุงเทพฯ ถึง 16 ราย รองลงมา สมุทรปราการ 7 ราย และนนทบุรี 3 ราย
ทั้งนี้ สถานการณ์การระบาดโดยรวมของประเทศไทยยังมีแนวโน้มคงตัว ในขณะที่การระบาดในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ยังพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อน (คลัสเตอร์) ต่อเนื่องจากกลุ่มเดิม และยังมีโอกาสจะพบผู้ติดเชื้อสูงขึ้นจากการระดมตรวจเชิงรุกในพื้นที่เสี่ยงมากขึ้น ทั้งตลาด, ชุมชน, โรงงาน และแคมป์คนงานก่อสร้าง ขณะที่ยังพบผู้ติดเชื้อผ่านชายแดนของประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกัมพูชา, มาเลเซีย และเมียนมา
"วันนี้ ยอดผู้ติดเชื้อในกรุงเทพฯ 975 คน กราฟยังทแยงขึ้น มีผู้เสียชีวิตสะสม 365 คน คิดเป็นอัตรา 1% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยกลางของประเทศ ซึ่งอยู่ที่ 0.7%" นพ.ทวีศิลป์ระบุ
สำหรับการระบาดในกรุงเทพฯ มีจำนวนคลัสเตอร์ที่ต้องเฝ้าระวังเพิ่มขึ้นล่าสุดอยู่ที่ 38 คลัสเตอร์ โดยพบการระบาดเป็นคลัสเตอร์ใหม่ 5 แห่ง คือ ห้างสรรพสินค้าย่านลาดพร้าว, โรงงานเย็บผ้าย่านยานนาวา, ตลาดย่านหนองจอก, เคหะชุมชนย่านคลองจั่น และแคมป์ก่อสร้างย่านสวนหลวง
นพ.ทวีศิลป์ ยังกล่าวถึงกรณีมีข่าวว่ามีผู้ป่วยเสียชีวิตจากโควิด-19 ใน รพ.ศรีสะเกษ แต่ปกปิดข้อมูลโดยแจ้งว่าเป็นการเสียชีวิตจากปอดติดเชื้อแบคทีเรีย ทั้งๆ ที่เจ้าหน้าที่ใส่ชุด PPE ในการเคลื่อนย้ายศพว่า ประเด็นนี้ รมว.สาธารณสุข ได้ให้มีการตรวจสอบเร่งด่วน และได้รับการชี้แจงจาก ผอ.รพ.ศรีสะเกษแล้ว ว่าไม่ได้มีการปกปิดข้อมูลการเสียชีวิตแต่อย่างใด ซึ่งในข้อเท็จจริง คือ ผู้เสียชีวิตรายนี้ เป็นชายอายุ 61 ปี ก่อนหน้านี้เคยป่วยโควิดและเข้ารับการรักษาใน รพ.ตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย. จนหายดีและตรวจไม่พบเชื้อโควิดแล้ว แต่ยังต้องรักษาตัวต่อเนื่องใน รพ. เนื่องจากมีอาการแทรกซ้อนจากปอดติดเชื้อแบคทีเรีย จนสุดท้ายผู้ป่วยได้เสียชีวิตลงในวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา ดังนั้น เพื่อความไม่ประมาทจึงอาจเห็นเจ้าหน้าที่ใส่ชุด PPE เพื่อป้องกันไว้เสมือนกับเป็นผู้ป่วยโควิด
"จะมีการนำเข้าคณะกรรมการวิชาการของกรมควบคุมโรค เพื่อตัดสินว่าจะใช้การรายงานว่าเสียชีวิตจากติดเชื้อโควิด หรือเสียชีวิตจากปอดติดเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งระบบการรายงานจะทำให้ถูกต้องต่อไป" โฆษก ศบค.ระบุ
นพ.ทวีศิลป์ ยังกล่าวด้วยว่า นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. ได้สั่งการลงมายัง ผอ.ศบค.ชุดเล็ก ในเรื่องของการลงทะเบียนรับการฉีดวัคซีน และการกระจายวัคซีน โดยขอให้ประชาชนชะลอการลงทะเบียนผ่านทาง "หมอพร้อม" ไว้ก่อน แต่ประชาชนจะมีทางเลือกในการลงทะเบียนรับวัคซีนเพิ่มมากขึ้น จากการที่ในแต่ละจังหวัดเริ่มเปิดช่องทางใหม่ๆ ในการลงทะเบียนจองรับวัคซีน เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการจองรับวัคซีนได้มากขึ้น เช่น กรุงเทพฯ ภูเก็ต และนนทบุรี เป็นต้น ในขณะที่ระบบ "หมอพร้อม" ก็จะยังทำหน้าที่ในการติดตามอาการข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนเข็ม 1 และเข็ม 2 รวมถึงการออกใบรับรองการฉีดวัคซีนครบโดสให้กับประชาชนอยู่เช่นเดิม
"ตอนนี้ ระบบหมอพร้อมได้ติดตามการฉีดวัคซีน และออกใบรับรอง ส่วนการลงทะเบียนรับวัคซีน อยากให้มีทางเลือกกับประชาชนเพิ่มขึ้น เช่น ภูเก็ต มีแอปฯเฉพาะของภูเก็ต กทม.ก็มีแอปฯ ของกทม. รวมทั้งนนทบุรี ก็มีแอปฯ ของนนทบุรี ซึ่งอำนวยความสะดวกให้การลงทะเบียนไม่เป็นคอขวด แต่ผู้ที่ลงทะเบียนไว้เดิมในระบบของหมอพร้อม ทั้งผู้สูงอายุ 60 ขึ้นไป รวมทั้งผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง 7 โรค ยังจะได้รับวัคซีนตามที่ได้ประสงค์ไว้ตั้งแต่ต้น" โฆษก ศบค.ระบุ
ส่วนแผนการกระจายวัคซีน จากเดิมที่ใช้เกณฑ์การจัดสรรวัคซีนตามจำนวนที่แต่ละพื้นที่สั่งจองเข้ามานั้น อาจมีบางจังหวัดสั่งจองวัคซีนเข้ามามาก ซึ่งทำให้เกิดประเด็นการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นจังหวัดที่ประชากรไม่มาก การติดเชื้อไม่มาก แต่ได้รับจัดสรรวัคซีนมาก ดังนั้นจึงมีการปรับแผนการจัดสรรวัคซีนใหม่ ซึ่งจะพิจารณาหลักเกณฑ์โดยดูว่าเป็นจังหวัดที่มีสถานการณ์การติดเชื้อจำนวนมาก เป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจ สังคม รวมทั้งมีแรงงานที่เป็นอาชีพเสี่ยงต่อการรับเชื้อหรือติดเชื้อได้ง่ายกว่า
"แผนการแจกจ่ายวัคซีนจะถูกปรับใหม่ โดยใช้หลายเกณฑ์...ผอ.ศบค. ได้รับทราบทุกข้อเสนอ และนำมาสู่การจัดสรรใหม่...เราพยายามทำให้ดีที่สุด และตอบสนองกับความต้องการของประเทศ เพื่อการขับเคลื่อนต่อไป" นพ.ทวีศิลป์กล่าว
สำหรับสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ล่าสุดวันนี้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมรวมแล้ว 168,514,195 ราย เสียชีวิต 3,499,434 ราย โดยประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุด อันดับแรก สหรัฐอเมริกา 33,947,189 ราย อันดับสอง อินเดีย 27,156,382 ราย อันดับสาม บราซิล 16,195,981 ราย อันดับสี่ ฝรั่งเศส 5,609,050 ราย และอันดับห้า ตุรกี 5,203,385 ราย โดยประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 85