นายวีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ในฐานะโฆษกศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) วันที่ 27 พฤษภาคม 2564 เวลา 9.00 น. มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ 1,228 ราย จากเรือนจำ/ทัณฑสถาน 6 แห่ง และมีผู้รักษาหายแล้ว 2,054 ราย ทำให้เหลือผู้ต้องขังที่ยังอยู่ระหว่างการรักษา 16,319 ราย
สำหรับยอดผู้ต้องขังติดเชื้อสะสม 21,010 ราย จากเรือนจำ 14 แห่ง
ลำดับ เรือนจำ/ทัณฑสถาน ติดเชื้อรายใหม่ รักษาหายเพิ่ม เสียชีวิต คงเหลือ 1 เรือนจำกลางเชียงใหม่ - 1,986 - 1,544 2 เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร - - - 1,704 3 ทัณฑสถานหญิงกลาง 1 - - 1,158 4 เรือนจำกลางคลองเปรม 889 - - 3,651 5 เรือนจำพิเศษธนบุรี 42 23 - 3,671 6 เรือนจำกลางฉะเชิงเทรา 33 - - 242 7 ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง - - - 158 8 เรือนจำจังหวัดนนทบุรี - - - 2,142 9 เรือนจำกลางบางขวาง - 45 - 1,698 10 ทัณฑสถานหญิงธนบุรี 259 - - 327 11 เรือนจำกลางขอนแก่น - - - 1 12 เรือนจำพิเศษมีนบุรี - - - 1 13 เรือนจำกลางสงขลา - - - 16 14 เรือนจำกลางสมุทรปราการ 4 - - 6 รวม 1,228 2,054 - 16,319
สำหรับมาตรการเตรียมความพร้อมก่อนปล่อยตัวนักโทษเด็ดขาดที่ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำ ทั้งแบบปกติ ปล่อยตัวชั่ว คราว และการพักการลงโทษหรือลดวันต้องโทษจำคุก เรือนจำ/ทัณฑสถานทุกแห่งต้องดำเนินการตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโควิด- 19 ก่อนปล่อยตัวทุกรายและทุกกรณี
หากเป็นพื้นที่กรุงเทพมหานครและพื้นที่เสี่ยงให้แจ้งชื่อและกำหนดการปล่อยตัวแก่สำนักงานสาธารณสุขก่อนปล่อยตัวไม่น้อยกว่า 5 วัน และในรายที่สงสัยว่าจะติดเชื้อให้ดำเนินการแยกกักตัวเพื่อสังเกตอาการก่อนปล่อย 14 วันหากไม่ติดเชื้อจึงปล่อยตัวได้ หากพบว่ามี การติดเชื้อ หรือเป็นผู้ติดเชื้อที่กำลังรักษาตัวอยู่ให้ประสานหน่วยงานสาธารณสุขหรือโรงพยาบาลแม่ข่ายในพื้นที่เพื่อรับตัวเข้าสู่กระบวนการ รักษา และในผู้ติดเชื้อที่ได้รับการรักษาจนหายแล้ว ก่อนปล่อยตัวให้แจ้งโรงพยาบาลในพื้นที่เพื่อติดตามผลต่อเป็นระยะเวลา 14 วัน
นายวีระกิตติ์ กล่าวว่า สำหรับมาตรการลดความแออัดในเรือนจำ ทางกรมราชทัณฑ์กำลังพิจารณาโครงการพักการลงโทษกรณี พิเศษสำหรับผู้ที่เจ็บป่วยในสถานการณ์การแพร่ระบาด และการปรับขยายเกณฑ์พักการลงโทษ เพื่อให้นักโทษได้รับการพักกรลงโทษมากขึ้น ซึ่งทั้งหมดยังอยู่ระหว่างการพิจารณาถึงหลักเกณฑ์และความเหมาะสม เพื่อไม่ให้กระทบต่อประชาชน และภาพรวมของกระบนการยุติธรรม รวมถึงการให้ผู้ต้องขังใช้สิทธิยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว ซึ่งได้รับความกรุณาจากสำนักงานศาลยุติธรรม ที่ได้ออกมาตรการลดการ คุมขังและการเคลื่อนย้ายผู้ต้องขังในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มา ซึ่งจะช่วยลดความแออัดของเรือนจำ/ ทัณฑสถานได้เป็นอย่างดี
ส่วนกรณีมีการเผยแพร่ข้อมูลในสื่อสังคมออนไลน์ว่ามีชายที่พ้นโทษจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครและติดเชื้อ จากเรือนจำฯ ได้นอนเสียชีวิตอยู่บนบาทวิถีเมื่อวันที่ 26 พ.ค.64 นั้น นายวีระกิตติ์ ชี้แจงว่า ชายคนดังกล่าวได้รับการตรวจหาเชื้อไวรัส โควิด-19 ก่อนพ้นโทษ โดยเมื่อวันที่ 9 พ.ค.64 ได้รับแจ้งจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งจัดเป็นผู้ป่วยใน กลุ่มสีเขียว ที่ไม่มีอาการป่วยแสดง เรือนจำฯ จึงได้ประสานส่งต่อผู้ติดเชื้อรายดังกล่าว รวมกับผู้ต้องขังอีก 3 รายที่พ้นโทษพร้อมกันในวัน ที่ 11 พ.ค.64 ไปรับการรักษาจากหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ต่อ ตามกระบวนการของการรักษาผู้ป่วยทั่วไป ซึ่งเป็นไปตามมาตรการ เตรียมความพร้อมก่อนปล่อยของกรมราชทัณฑ์