นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป เพื่อชี้แจงแนวทางการดำเนินงานจัดบริการวัคซีนโควิด-19 ว่า ในการให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ขณะนี้ ทุกจังหวัดได้มีการซักซ้อมระบบและฉีดได้ตามเป้าหมาย ก่อนที่จะฉีดพร้อมกันทั่วประเทศ ในวันที่ 7 มิ.ย. โดยกระทรวงสาธารณสุขจะกระจายวัคซีนไปยัง 76 จังหวัดตามแผนการจัดสรรของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) โดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดจะเป็นผู้พิจารณาการฉีดในกลุ่มเป้าหมายต่างๆ และให้ทุกจังหวัดจดบันทึกข้อมูลการให้บริการ และจำนวนคงคลังในระบบ MOPH Immunization Center (MOHP IC) ให้ครบ เตรียมความพร้อมในการออกเอกสารรับรองในผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม สำหรับผู้เดินทางไปต่างประเทศ โดยจะมอบอำนาจให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และผู้อำนวยการโรงพยาบาลระดับจังหวัด ในการออกเอกสารรับรองตั้งแต่เดือนมิ.ย.เป็นต้นไป
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ได้ย้ำให้ทุกจังหวัดเน้นการฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มครู บุคลากรทางการศึกษา รองรับการเปิดภาคการศึกษา สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ และผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรังที่ลงทะเบียนมาแล้ว ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ จะได้รับวัคซีนในวันที่ 7 มิ.ย.64 เป็นต้นไป โดยการลงทะเบียนรับวัคซีนสำหรับประชาชนทั่วไปในต่างจังหวัด (76 จังหวัด ไม่รวมกทม.) มีหลากหลายช่องทาง เริ่มลงทะเบียนวันที่ 14 มิ.ย. 64 เป็นต้นไป ได้แก่ ไลน์/แอปพลิเคชัน หมอพร้อม แอปพลิเคชันของจังหวัด ผ่านอสม. และ รพ.สต. หรือติดต่อโรงพยาบาลใกล้บ้าน เมื่อได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว ข้อมูลทั้งหมดจะสู่ระบบฐานข้อมูล MOHP IC และหมอพร้อม จะติดตามอาการ นัดหมายฉีดครั้งที่ 2 รวมทั้งออกเอกสารการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม
ด้านนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ได้ประชุมทำความเข้าใจเรื่องการกระจายวัคซีนโควิด-19 ให้แก่ทุกจังหวัด ซึ่งตามนโยบายของ ศบค.มีเป้าหมายฉีดวัคซีนโควิด 19 เข็มแรก จำนวน 50 ล้านโดสให้เสร็จภายในเดือนก.ย.64 กำหนดเริ่มฉีดวัคซีนอย่างเป็นทางการวันที่ 7 มิ.ย. 64 ยืนยันว่าทุกจังหวัดจะมีวัคซีนฉีดแน่นอน วัคซีนที่รัฐบาลจัดหาทั้งวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าและซิโนแวก สามารถฉีดได้ในกลุ่มอายุ 18 ปีขึ้นไปเหมือนกัน โดยแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาฉีดให้ โดยยึดหลักวิชาการทางการแพทย์
สำหรับการกระจายวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ทาง ศบค.จะเป็นผู้กำหนดในการจัดส่งให้แต่ละจังหวัด กระทรวงสาธารณสุขจึงจัดส่งวัคซีนไปตามนั้น คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดจะเป็นผู้พิจารณาการฉีดในกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ โดยพิจารณาทั้งจากจำนวนประชากร, สถานการณ์การระบาด, กลุ่มเป้าหมาย, พื้นที่นโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจการท่องเที่ยว เช่น จ.ภูเก็ต ที่จะเปิดเรื่องท่องเที่ยวเดือนก.ค.นี้ จึงต้องฉีดให้เสร็จภายในเดือนมิ.ย. โดยกลุ่มผู้สูงอายุและ 7 โรคเรื้อรังที่ลงทะเบียนผ่านหมอพร้อมที่ต้องพิจารณาฉีดให้เป็นกลุ่มแรกๆ
"การจัดส่งวัคซีนจากเดิมที่ส่งให้จังหวัดเป็นรายเดือนจะเปลี่ยนเป็นรายสัปดาห์ เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่ปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว และมีการติดตามผลการฉีดว่าเป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่ โดยขอให้รายงานจำนวนการฉีดและสต็อกวัคซีนที่เหลือ หากฉีดได้ตามเป้าหมายจะจัดส่งวัคซีนไปเพิ่มเติม สำหรับการจัดสรรวัคซีนในกลุ่มประชากรของกรุงเทพมหานคร (กทม.) และผู้ประกันตนของสำนักงานประกันสังคม และกทม. เมื่อรับวัคซีนแล้วจะไปดำเนินการบริหารจัดการการฉีดวัคซีนเอง" นพ.โอภาสกล่าว