ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4,528 ราย ประกอบด้วย
- ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 1,397 ราย
- จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 1,202 ราย และจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 1,902 ราย
- ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 27 ราย มาจากสวิตเซอร์แลนด์ 1ราย ฟิลิปปินส์ 1 ราย เนเธอร์แลนด์ 1 ราย ส่วนกัมพูชา 24 ราย โดย 23 รายเดินทางมาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนอีก 1 รายเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ
- มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 24 ราย แบ่งเป็นกรุงเทพมหานคร 14 ราย นนท่บุรี 3 ราย ชลบุรี 2 ราย ส่วนเชียงใหม่ สมุทรปราการ สมุทรสาคร สุพรรณบุรี นครศรีธรรมราช จังหวัดละ 1 ราย ในจำนวนนี้เป็น เพศชาย 11 ราย หญิง 13 ราย อายุระหว่าง 38-86 ปี ส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว
พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศบค. เปิดเผยว่า จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่วันนี้ แยกเป็นกรุงเทพมหานคร 754 ราย เพชรบุรี มากเป็นอันดับสอง ที่ 754 ราย สมุทรปราการ 264 ราย นนทบุรี 139 ราย โดยปริมณฑล 5 จังหวัด รวม 557 ราย จังหวัดอื่นๆ 1,288 ราย
ในที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กได้หยิบยกมาหารือว่าเนื่องจากกรุงเทพและปริมณฑล มีพื้นที่ติดต่อกันดังนั้นถ้าควบคุมตัวเลขในกทม.ให้ลงให้ได้ก็จะส่งผลให้ตัวเลขในปริมณฑลและรวมจังหวัดอื่น เช่น ราชบุรี เพชรบุรี ก็มีความเป็นไปได้ที่จะลดลง เพราะลักษณะที่เกิดเป็นการเดินทางข้ามพื้นที่ ผู้ที่ทำงาน ตลาด ชุมชนดังนั้นถ้าดึงตัวเลขกทม.ลงก็จะช่วยให้สถานการณ์ของประเทศลดลงตามลำดับด้วย
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า วันนี้ตัวเลขไม่ลดลง สถานการณ์ยังน่าเป็นห่วงแม้ตัวเลขที่พบมากขึ้นเป็นการคัดกรองเชิงรุกในเรือนจำ ในพื้นที่ชุมชน ได้แก่ ชุมชนแออัด ตลาด โรงงาน แคมป์คนงาน แต่อย่างไรก็ตามมีความเชื่อมโยงกัน เพราะพบผู้ติดเชื้อจากตลาด หรือ แคมป์คนงาน คนเหล่านี้ยังพฤติกรรมเดินทางไปในชุมชน ไปจับจ่ายซื้อของที่ตลาด โดยกรมควบคุมโรคยังระบุว่าจากเดิมมีการติดเชื้อในตลาดใหญ่ ตอนนี้พบว่ามีการแพร่ระบาดตลาดเล็ก ตลาดที่อยู่ในชุมชนเล็ก
สำหรับการระบาดภายในเรือนจำก็ยังน่าเป็นห่วงในเรื่องการจัดการ ซึ่งราชทัณฑ์ เป็นผู้รับผิดชอบ แต่การส่งผู้ป่วยออกมารักษาด้านนอกเรือนจำอาจทำไม่ได้ เพราะฉะนั้นการดูแลรักษาภายในโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ก็มีการจัดการระบบการดูแลทั้งระดับเขียว เหลือง แดง เพื่อการรักษาให้เบ็ดเสร็จภายในเรือนจำ ไม่ให้แพร่กระจายเชื้อออกมาข้างนอก แต่ก็มีการพูดคุยเรื่องการคุณภาพการรักษา โดยจากตัวเลขผู้ติดเชื้อค่อนข้างสูง การใช้เตียง การใช้เครื่องช่วยหายใจภายในเรือนจำ รวมบุคคลากรที่ทำงานอยู่ด้วย จะได้รับการสนับสนุนอย่างเหมาะสม
ส่วนประเทศเพื่อนบ้านที่เฝ้าระวังคือมาเลเซียซึ่งมีผู้ติดเชื้อค่อนข้างสูงและสูงต่อเนื่อง โดยยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่และยอดผู้เสียชีวิตก็สูงขึ้น และที่สำคัญคือมาเลเซียมีการประกาศมาตรการล็อกดาวน์เต็มรูปแบบ มีผลตั้งแต่ 1-14 มิ.ย.64 และจากการล็อกดาวน์ของมาเลเซีย ที่ประชุมศบค.ชุดเล็กได้แสดงความเป็นห่วงอาจมีคนไทยที่จะพยายามหาทางกลับบ้านข้ามทางชายแดนซึ่งจังหวัดที่น่าเป็นห่วงคือ สงขลา ยะลา นราธิวาส สตูล ได้ขอความร่วมมือให้ก.มหาดไทย ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดขอให้มีการหารือและบูรณาการการเฝ้าระวังการเข้าเมืองผิดกฎหมาย รวมทั้งขอให้ผู้นำชุมชน พี่น้องประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาไม่ให้เกิดการข้ามพรมแดนมาทางช่องทางธรรมชาติ ซึ่งผิดกฎหมาย
สำหรับสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ล่าสุดวันนี้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมรวมแล้ว 170,626,190 ราย เสียชีวิต 3,548,593 ราย โดยประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุด อันดับแรก สหรัฐอเมริกา 34,035,318 ราย อันดับสอง อินเดีย 27,893,472 ราย อันดับสาม บราซิล 16,471,600 ราย อันดับสี่ ฝรั่งเศส 5,657,572 ราย และอันดับห้า ตุรกี 5,235,978 ราย โดยประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 83