นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีรมว.สาธารณสุข ชี้แจงกรณีรัฐบาลไม่จัดสรรงบประมาณเพื่อจัดซื้อวัคซีนโควิด-19 ในร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 2565 ว่า ในการขอจัดสรรงบประมาณกระทรวงสาธารณสุข ได้มีการเสนองบประมาณส่วนนี้ไปแล้ว แต่สำนักงบประมาณแจ้งว่าจะให้ใช้งบประมาณในส่วนของเงินกู้ที่ยังมีเหลืออยู่ หากไม่พอก็ยังมีงบกลางที่สามารถใช้ได้
พร้อมยืนยันว่า การจัดสรรงบประมาณยังเพิ่มเบี้ยเลี้ยง เบี้ยเสี่ยงภัยต่างๆ ให้บุคลากรทางแพทย์ด้วย เพราะถือเป็นฝ่ายที่ทุ่มเท และเสียสละอย่างมาก รัฐบาลให้ความสำคัญกับคนกลุ่มนี้แน่นอน
ส่วนกรณีที่องค์ปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ต่างๆ ต้องการจัดซื้อวัคซีนมาดูแลคนในพื้นที่เองนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) จะเป็นผู้ตัดสินใจ กระทรวงสาธารณสุขพร้อมดำเนินการตาม หาก ศบค. เห็นชอบ พร้อมระบุว่าไม่กระทบต่อแผนการกระจายวัคซีนของกระทรวงสาธารณสุขที่ดำเนินการอยู่ ซึ่งได้ดำเนินการอย่างครบถ้วนอยู่แล้วและขณะนี้ก็มีการกระจายฉีดวัคซีนอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนมีนาคม แต่บางพื้นที่ที่มีการชะลอก็เพื่อให้การกระจายวัคซีนสอดคล้องกันแต่ละพื้นที่
สำหรับภาพรวมการติดเชื้อโควิด-19 เวลานี้ นายอนุทิน ยืนยันว่าการติดเชื้อยังเป็นกลุ่มคลัสเตอร์ ที่เกิดจากการรวมกลุ่ม ซึ่งสามารถควบคุมได้ดีกว่าการติดเชื้อแบบกระจัดกระจาย อย่างไม่รู้ที่มาที่ไป
ส่วนการจัดสรรวัคซีนให้กับคลัสเตอร์เรือนจำ ซึ่งเป็นคลัสเตอร์ใหญ่สุดในเวลานี้ นายอนุทิน กล่าวว่า รมว.ทรวงยุติธรรม ได้ประสานมาแล้ว จำเป็นต้องเร่งฉีดให้กับผู้ที่ยังไม่ติดเชื้อด้วย ส่วนผู้ที่ติดเชื้อแล้วจะใช้แนวทาง Bubble and Seal ควบคุมอย่างเข้มงวด ขณะนี้มีการจัดสรรวัคซีนให้แล้วอย่างต่อเนื่องตามแผนที่เสนอมา
ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เปิดเผยถึงกรณีที่ยังพบผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมากอย่างต่อเนื่อง เพราะสภาพแวดล้อมในเรือนจำและทัณฑสถานไม่เอื้อต่อการเว้นระยะห่างเพื่อป้องกันโรคตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข อีกทั้งมีนักโทษล้นเรือนจำ 310,000 คน ทั้งนี้หากจะแก้ปัญหาด้วยการสร้างเรือนจำและทัณฑสถานเพิ่มให้ได้มาตรฐานสากล คือมีพื้นที่ 1.2 ตารางเมตรต่อคน ต้องสร้างเรือนจำและทัณฑสถานอีกนับ 100 แห่ง โดยต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะทำในตอนนี้ ความหวังเดียวที่จะแก้ปัญหาคือต้องหยุดการแพร่ระบาดด้วยการฉีดวัคซีนในเรือนจำให้มีผู้ติดเชื้อเป็นศูนย์ก่อนเพื่อสกัดเชื้อ
ส่วนที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบประมาณให้ 300 ล้านบาทจะนำไปสร้างห้องกักตัวรับผู้ต้องขังใหม่ ไม่ให้คนใหม่ไปปะปนคนเก่า