พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยว่า ปัจจุบัน กทม.มีคลัสเตอร์ที่ต้องเฝ้าระวังรวม 57 คลัสเตอร์ ใน 32 เขต โดยพบคลัสเตอร์ใหม่วันนี้ที่แคมป์คนงาน ในกองบัญชาการศึกษา สตช. เขตจตุจักร และชุมชนหัวป่า เขตสวนหลวง โดยวันนี้ที่ กทม.เน้นย้ำ คือชุมชนสะพานหัวช้าง ซอยเพชรบุรี 18 ซึ่งกองควบคุมโรค ได้รายงานการตรวจวันที่ 29 พ.ค. จุดตรวจสยามสแควร์ ตรวจเชิงรุกไป 734 ราย พบผู้ติดเชื้อ 54 ราย ซึ่งถือว่าสูง
โดยขณะนี้ กทม.ได้เฝ้าระวังห้างสรรพสินค้าย่านราชประสงค์ ประตูน้ำ ซึ่งมีทั้งห้องเช่า อาคารพาณิชย์ รวมถึงในพื้นที่ที่มีความหนาแน่นที่มีลักษณะคล้ายกัน คือ ชุมชนบางกะปิ เนื่องจากมีการกระจุกตัวของห้างสรรพสินค้า เช่น เดอะมอลล์, แมคโคร, ตลาดนครไทย, ตลาดบางกะปิ, เคหะคลองจั่น ที่มีประชาชนอาศัยอยู่หนาแน่น อีกทั้งมีแคมป์คนงานก่อสร้าง
"หลายครั้ง ที่ศบค.ประกาศเป็นพื้นที่ อยากให้ทุกท่านติดตามรายละเอียดจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งกทม. ที่เป็นเจ้าของพื้นที่ ซึ่งจะมีรายละเอียดว่าเป็นสถานที่ไหน จุดใด" พญ.อภิสมัย กล่าว
พร้อมระบุว่า กรมควบคุมโรค เน้นย้ำการปฏิบัติตามมาตรการส่วนตัว สวมหน้ากากตลอดเวลา ล้างมือ ไม่อยู่สถานที่แออัดคับแคบ และทุกๆ ที่ขอให้เป็นพื้นที่เฝ้าระวังทั้งหมด ถ้าหากระมัดระวังตัวอย่างดี โอกาสติดเชื้อจะลดน้อยลง
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า การที่ ศบค.ประกาศว่าสถานที่ใดสถานที่หนึ่งพบการติดเชื้อโควิด ไม่ว่าจะเป็นตลาด ห้างสรรพสินค้า คอนโดมิเนียม หรือหอพักนั้น ไม่ได้หมายความว่าทุกคนในสถานที่นั้นๆ จะกลายเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง แต่หากอยู่ใกล้ผู้มีความเสี่ยงสูง แล้วไม่ปฏิบัติตามมาตรการส่วนบุคคล ไม่เว้นระยะห่าง ไม่สวมหน้ากากอนามัย พูดคุยในสถานที่อับอากาศเกิน 5 นาที หรือมีการไอ จามรดกัน จะถือว่าเป็นผู้มีความเสี่ยงสูง
"แต่หากท่านอาศัยอยู่ในอาคารเดียวกัน หรือเดินไปในห้างนั้น ร้านนี้ ในช่วงเวลาต่างกัน ท่านอาจไม่ใช่ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จึงต้องทำความเข้าใจให้ถูกต้อง" ผู้ช่วยโฆษก ศบค.กล่าว
นอกจากนี้ กทม. ได้รายงานการตรวจคัดกรองเชิงรุก เขตลาดพร้าว เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.ที่ผ่านมา สำหรับประชาชนที่รอผลตรวจ ขอให้งดการเดินทาง ไม่ไปสัมผัสผู้สูงอายุ หรือคนในครอบครัว พยายามกักกันตัวเองระหว่างรอผลตรวจ เพราะถือว่าระหว่างรอผลยังมีความเสี่ยง ซึ่งในพื้นที่ กทม. ยังมีความจำเป็นต้องเฝ้าระวังตลาด ชุมชน และแคมป์คนงานต่อไป