นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านออกมาระบุว่า หน่วยงานของรัฐบาลตั้งงบลับจำนวนมากว่า ไม่ทราบเรื่อง ขอให้ไปถามทางสำนักงบประมาณจะดีกว่า และไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้ด้วย
ทั้งนี้ นายวิษณุ ปฏิเสธตอบคำถามว่า แต่ละหน่วยงานสามารถตั้งงบประมาณลับของตัวเองได้หรือไม่ เพราะไม่รู้เรื่อง และไม่ได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดทำงบประมาณ ส่วนกรณีที่นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย สงสัยเรื่องนี้นั้น นายวิษณุ กล่าวว่า ก็อ่านอยู่เหมือนกัน
ส่วนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 8 มิ.ย.ต้องเตรียมความพร้อมก่อนรัฐบาลจะชี้แจงพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม วงเงินไม่เกิน 5 แสนล้านบาท ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมสภาฯ ในวันที่ 9 มิ.ย.นี้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่มี เป็นเรื่องของนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ที่จะไปชี้แจง
นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 กล่าวว่า การประชุมในวันนี้ กมธ.จะพิจารณาในส่วนของกระทรวงการคลัง ซึ่งจะเป็นการพิจารณาในภาพรวม ข้อมูล ภาวะเศรษฐกิจของประเทศ และงบประมาณรายจ่าย 4 หน่วยงาน และกระทรวงการคลัง จำนวน 1 หน่วยงาน 1 กองทุน จากนั้นจะเข้าสู่รายละเอียด ซึ่งหน่วยงานแรกๆ จะไม่เร่งรีบ จะเปิดโอกาสให้ กมธ.ซักถามเต็มที่
ส่วนที่ฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับงบลับนั้น เท่าที่ทราบงบลับไม่ได้มีอยู่ในกระทรวงกลาโหม สำนักนายกรัฐมนตรี เท่านั้น แต่ยังมีอยู่ในกรมสรรพากร กรมสรรพสามิต สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) อย่างไรก็ตาม ถ้าฝ่ายค้านเห็นว่ายังมีงบลับซ่อนอยู่ที่ใด ขอให้ช่วยกันเปิดว่ามีอยู่ตรงไหนบ้าง เรื่องแบบนี้เปิดเผยอยู่แล้ว ทางคณะ กมธ.จะพูดคุยกันในเรื่องดังกล่าวตามธรรมเนียม การตรวจสอบงบลับจะให้ประธานในที่ประชุมดูว่าใช้อะไรบ้างแล้วก็ส่งคืนถือเป็นความลับ เพราะฉะนั้นคนที่จะได้ดูงบลับก็คือคนที่นั่งประชุมในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่เคยเห็นเช่นกัน
"งบลับก็คืองบลับ ไม่ได้ปรับให้เป็นกำนัลแก่ผู้ใหญ่ในบ้านเมือง เพราะงบลับเป็นส่วนหนึ่งที่มีการพิจารณาทุกปีอยู่แล้ว ส่วนจะเปิดเผยได้หรือไม่เป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหาร ซึ่งในส่วนของ กมธ.เราก็พิจารณาในสัดส่วนของงบประมาณ และยังมีคณะอนุกรรมาธิการเข้าไปดูแลในส่วนตรงนี้อีก แต่ก็ยอมรับว่าคงทำอะไรมากไม่ได้" นายวิรัช กล่าว
ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายกังวลถึงงบสาธารณสุขถูกปรับลดลงท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 นายวิรัช กล่าวว่า ทางเราอยากทราบถึงการฉีดวัคซีน และถ้าเป็นไปได้อยากให้เป็นกระทรวงลำดับต้นๆ ในการพิจารณา ส่วนการเพิ่มงบประมาณให้กับกรมควบคุมโรคติดต่อนั้นมีความเป็นไปได้ ซึ่งต้องหารือกันก่อน