นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติโครงการยกระดับการให้บริการทางการแพทย์แก่ประชาชน เพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กรอบวงเงิน 101.39 ล้านบาท
ประกอบด้วย การจัดหาครุภัณฑ์ทางการแพทย์ วงเงิน 89.04 ล้านบาท อาทิ เครื่องช่วยหายใจ เครื่องกระตุกไฟฟ้าหัวใจ เครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เครื่องติดตามการทำงานของหัวใจและสัญญาณชีพ เครื่องเอกซเรย์เคลื่อนที่ ชุดเครื่องมือช่วยใส่ท่อช่วยหายใจแบบวีดิทัศน์ เครื่องผลิตออกซิเจน เครื่องเรด้าร์ทำความสะอาดห้อง ตู้ฆ่าเชื้อหุ่นยนต์เพื่อติดตามดูแลผู้ป่วยโควิดสำหรับ isolate room เครื่องกรองอากาศแบบ medical grade เครื่องตรวจอวัยวะภายในด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง และรายการก่อสร้างจำนวน 12.34 ล้านบาท อาทิ ปรับปรุงชุดหัวจ่ายระบบแก๊สทางการแพทย์ การปรับปรุงห้องแยกโรคผู้ป่วยแพร่เชื้อทางอากาศ คลินิกโรคระบบทางเดินหายใจ
"จะช่วยทำให้โรงพยาบาล/สถาบันในสังกัดกรมการแพทย์ มีความพร้อมทั้งสถานที่ อุปกรณ์และบุคลากรทางการแพทย์ ในการรักษาผู้ติดเชื้อ เมื่อมีสถานการณ์ฉุกเฉิน จากโรคระบาดของโควิด-19 อย่างเพียงพอและมีประสิทธิภาพ ในรูปแบบใหม่ New Normal ขณะเดียวกันประชาชนก็จะได้รับบริการทางการแพทย์ที่มีมาตรฐานปลอดภัยอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง รวมถึงผู้ป่วยที่เข้ามาใช้บริการในสถานพยาบาลของรัฐ ยังเข้าถึงการบริการอย่างปลอดภัย ช่วยลดกลุ่มเสี่ยงในการติดเชื้อ ซึ่งจะเป็นการป้องกัน ควบคุมการแพร่ระบาด และจำกัดจำนวนการเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยอีกทางหนึ่งด้วย" นายอนุชาระบุ
พร้อมกันนี้ ครม.ยังมีมติอนุมัติโครงการยกระดับหน่วยบริการกรมอนามัย รองรับการระบาดของโรคโควิด-19 กรอบวงเงิน 128.24 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงบริการของหน่วยบริการสุขภาพของกรมอนามัย รองรับการระบาดในวงกว้าง เฝ้าระวังปัจจัยเสี่ยงด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมต่อการระบาดของ โควิด-19 และสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพของทุกภาคส่วนในการปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ประกอบด้วย
- รายการครุภัณฑ์ จำนวน 91.67 ล้านบาท อาทิ ชุดตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 แบบพกพา เครื่องวัดปริมาณออกซิเจนในเลือดปลายนิ้ว เครื่องช่วยหายใจ Hi Flow เครื่อง AED เครื่องติดตามการทำงานของหัวใจและสัญญาณชีพ รถพยาบาลพร้อมอุปกรณ์ช่วยชีวิตขั้นสูงเครื่องวัดความดันอัตโนมัติแบบสอดแขน หุ่นยนต์ลำเลียงอุปกรณ์ทางการแพทย์ หุ่นยนต์ฆ่าเชื้อโรคด้วยแสง UV-C
- รายการก่อสร้าง จำนวน 29.30 ล้านบาท อาทิ การปรับปรุงห้อง Isolate room Cohort ward ห้อง Modified AIIR ห้อง ARI ClINIC)
- งบดำเนินงาน ค่าใช้สอยและวัสดุเพิ่มเติม จำนวน 7,263,600 บาท อาทิ เวชภัณฑ์ป้องกันสำหรับการบริการฉีดวัคซีน
กลุ่มเป้าหมาย คือ ประชาชนในทุกกลุ่มวัย/กลุ่มเปราะบาง อาทิ สตรีมีครรภ์ เด็กประถมวัย ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคอ้วน โรค NCDs/กลุ่มเสี่ยงผู้ติดเชื้อที่เป็นกลุ่มแยกกัก โรงพยาบาลสนามหรือรับการรักษาใน Cohort Ward นายอนุชา กล่าวด้วยว่า ครม.ยังอนุมัติโครงการจัดหาวัสดุครุภัณฑ์ทางการแพทย์ กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข กรอบวงเงิน 54.88 ล้านบาท เพื่อจัดซื้อเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ สำหรับใช้ในการให้บริการตรวจคัดกรอง ดูแลผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ใน 4 สถาบัน/โรงพยาบาล ในเขตกรุงเทพมหานคร และ 16 สถาบัน/โรงพยาบาล ในส่วนภูมิภาค สังกัดกรมสุขภาพจิต อาทิ เครื่องวัดออกซิเจนในเลือดอัตโนมัติชนิดพกพา เครื่องติดตามการทำงานของหัวใจ และสัญญาณชีพขนาดเล็ก เครื่องช่วยหายใจชนิดควบคุมปริมาตรและความดันเคลื่อนย้ายได้ เครื่องเอกซเรย์เคลื่อนที่ดิจิตอลไม่น้อยกว่า 300 mA เครื่อง UV-C รถเข็นยับยั้งการทำงานของเชื้อโรค เครื่องตรวจความแปรปรวนของการเต้นของหัวใจ รุ่น mac-Pulse ตู้เย็นแช่ยา แบบ 2 ประตู ขนาด 33 คิว ตู้เย็นแช่ยา แบบ 1 ประตู ขนาด 9 คิว เครื่องฟอกอากาศรุ่น HCU
ทั้งนี้ บุคลากรผู้ดูแลผู้ป่วยจิตเวชที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในสถาบัน/โรงพยาบาล สังกัดกรมสุขภาพจิต มีความพร้อมในการดูแลผู้ป่วยที่มีอาการทางกายในระดับ asymptomatic/mild case โดย 100% ของผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่มารับการรักษาในโรงพยาบาลจิตเวช ได้รับบริการตรวจคัดกรอง ดูแลอาการทางกาย ด้วยอุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมทั้งผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มารับการรักษาในโรงพยาบาลจิตเวช จะได้รับการตรวจคัดกรอง ดูแลอาการทางกาย ตามแนวทางการให้บริการที่สอดคล้องกับแนวทางเวชปฏิบัติฯ (CPG) ให้มีอาการดีขึ้นด้วย