นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป (THG) เปิดเผยว่า ในวันศุกร์ที่ 11 มิ.ย. นี้ ทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้นัดหมายให้สมาคมโรงพยาบาลเอกชนและตัวแทนโรงพยาบาลเอกชนที่สนใจจะสั่งซื้อวัคซีนโควิด-19 ของซิโนฟาร์ม ระยะที่ 1 ซึ่งทางโรงพยาบาลธนบุรีก็ได้ส่งตัวแทนเข้าร่วมประชุมด้วย
อย่างไรก็ตาม คาดว่าปริมาณวัคซีนซิโนฟาร์มที่จะได้รับจัดสรรให้กับโรงพยาบาลเอกชนคงจะมีจำนวนไม่มาก ประเมินเบื้องต้นอาจจะมีเพียง100,000 โดส หรืออาจจะไม่ถึง 100,000 โดส เนื่องจากในช่วงแรกได้เปิดให้องค์กรบริษัทเอกชนรายใหญ่สั่งซื้อวัคซีนซิโนฟาร์มกับทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ไปก่อนหน้านี้แล้วเป็นจำนวนมากแล้ว เพื่อนำไปฉีดให้กับพนักงานในองค์กร ทำให้มีจำนวนวัคซีนซิโนฟาร์มเหลือไม่มากแล้ว และมีเงื่อนไขว่ายังไม่สามารถนำไปให้บริการเชิงพาณิชย์ได้
"หากได้รับการจัดสรรวัคซีนซิโนฟาร์มจากทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์มา เราก็จะนำไปฉีดให้กับพนักงานในองค์กรของเครือโรงพยาบาลธนบุรี ซึ่งตอนนี้เหลือพนักงานที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนอีก 10% ซึ่งวัคซีนซิโนฟาร์มจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ในระยะแรกไม่สามารถนำใช้เพื่อการพาณิชย์ที่มีการคิดค่าบริการฉีดกับลูกค้าได้ ใช้ได้เฉพาะบริการให้กับคนในองค์กรและบุคคลกลุ่มเสี่ยง หรือพื้นที่เสี่ยงแบบไม่คิดค่าบริการเท่านั้นตามวัตถุประสงค์ของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ซึ่งเราก็คาดว่าจะมีวัคซีนจัดสรรมาถึงโรงพยาบาลเอกชนไม่เยอะ อาจจะแสนโดสหรือไม่ถึงก็ได้ หรือโรงพยาบาลละ 1,000 โดส ก็เป็นไปได้ เพราะบริษัทเอกชน และ ส.อ.ท.สั่งซื้อไปมากแล้ว เพื่อระดมฉีดให้กับพนักงานของเขา"นพ.บุญ กล่าว
นพ.บุญ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันมีความเป็นห่วงเกี่ยวกับการแพร่ระบาดโควิด-19 ในปัจจุบันที่เริ่มมีการแพร่ระบาดไปถึงภาคอุตสาหกรรม โรงงานต่างๆมากขึ้น โดยเฉพาะโรงงานถุงมือยาง ซึ่งถือเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของอุปกรณ์ทางการแพทย์ ซึ่งจะจะส่งผลเสียต่อระบบซัพพลายเชน อย่างโรงงานถุงมือยาง หากมีการแพร่ระบาดจะทำให้การผลิตหยุดชะงัก และไม่สามารถส่งมอบสินค้าได้ทันกำหนด อาจทำให้ถูกฟ้องเรียกค่าปรับและยกเลิกคำสั่งซื้อได้ รวมทั้งมีโอกาสย้ายไปสั่งซื้อกับโรงงานผลิตในจีนและเวียดนามแทน เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจด้ จึงมีความเป็นห่วงในเรื่องดังกล่าวค่อนข้างมาก และอยากให้มีการเร่งรัดปูพรมในการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้เร็วขึ้น