นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า การปูพรมให้บริการวัคซีนโควิด-19 ทั่วประเทศ ซึ่งเป็นวาระแห่งชาติตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.เป็นต้นมาถึงขณะนี้เป็นไปด้วยความราบรื่น แม้เกิดปัญหาขลุกขลักก็สามารถหาทางแก้ไข และเดินหน้าต่อไปได้ เนื่องจากได้มีการเตรียมความพร้อมล่วงหน้ามานานแล้ว จากการฉีดให้กลุ่มเสี่ยงต่างๆ ตั้งแต่เดือน ก.พ.64 ซึ่งวันนี้มีความต้องการวัคซีนเพิ่มมากขึ้น รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขมีหน้าที่ต้องหาวัคซีนมารองรับความต้องการดังกล่าว
"ต้องขอขอบคุณคนไทยที่ให้ความมั่นใจในวัคซีนที่จัดหามา เพราะทุกคนล้วนมีรอยยิ้มเมื่อได้รับวัคซีน แสดงว่ามีความเชื่อมั่น ขอย้ำว่า ประเทศไทยจะเลือกวัคซีนที่มีคุณภาพ และมีความปลอดภัยมาให้บริการประชาชน อยากเรียนย้ำว่า แท้ที่จริงแล้ว กระทรวงสาธารณสุข เป็นหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายในการจัดหาวัคซีน และภูมิใจที่ได้ปฏิบัติหน้าที่นี้"
นายอนุทิน ยอมรับว่า กรณีที่มีการทยอยส่งมอบวัคซีนกระทบกับแผนบริหารจัดการในการกระจายลงพื้นที่บ้าง แต่ในอนาคตเชื่อว่าปัญหานี้จะคลี่คลาย เพราะจะมีวัคซีนให้บริการหลากหลายยี่ห้อ ซึ่งทางการจะช่วยอำนวยความสะดวกในการจัดสรร
"ในอนาคตหากการหารือกับผู้ผลิตไม่มีปัญหา เราจะมีทั้งไฟเซอร์สำหรับให้บริการในเด็ก และจอห์นสัน แอนด์จอห์นสัน ก็จะเช้ามาในเวลาไล่เลี่ยกัน ขณะที่เราทำสัญญาระยะยาวกับแอสตร้าเซนเนก้าไว้แล้ว ส่วนซิโนแวก ไทยตัดสินใจนำเข้ามาอย่างต่อเนื่อง มั่นใจว่า สามารถให้บริการประชาชนได้ตามเป้า ปัจจุบันนี้ รัฐบาล และกระทรวงสาธารณสุข กำลังหาทางนำเข้าวัคซีนเข้ามาเรื่อยๆ ทั้งยังได้ศึกษาผลการวิจัย เพื่อเลือกวัคซีนที่เหมาะสมกับสถานการณ์ที่สุดด้วย" นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวว่า การกระจายวัคซีนในแต่ละพื้นที่เป็นเรื่องการบริหารจัดการของหน่วยงานในพื้นที่นั้นๆ ซึ่งได้รับมอบอำนาจตามกฎหมายไปแล้ว ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขมีบทบาทเป็นฝ่ายสนับสนุน ซึ่งได้ทำสุดแรง สุดกำลัง ตามการมอบหมายของ ศบค.