พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่ รัฐบาล และศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) จะมีการอนุมัติผ่อนคลาย 5 กิจการ/สถานที่ ในพื้นที่ กทม. โดยเริ่มตั้งแต่ 14 มิ.ย. 64 เป็นต้นไป และอยู่ระหว่างการพิจารณาในพื้นที่จังหวัดอื่นอีกว่าตามนโยบายรัฐบาลและศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) จะมีการ อนุมัติผ่อนคลาย 5 กิจการ/สถานที่ อาทิ พิพิธภัณฑ์ โบราณสถานต่างๆ สวนสาธารณะ สวนพฤกษศาสตร์ต่างๆ คลินิกเสริมความงาม สถานประกอบการนวดเพื่อสุขภาพ (อนุญาตเฉพาะนวดฝาเท้า) ร้านทำเล็บและร้านสัก ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร และอยู่ระหว่างพิจารณาพื้นที่จังหวัดอื่นอีกอยู่นั้น
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยประชาชนในหัวงการแพร่ระบาดของโควิด-19 พร้อมกำชับการปฏิบัติของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน สำหรับมาตรการรองรับในการป้องกันการแพร่ระบาดขอตามสถานประกอบการหรือสถานที่มีการแออัดของประชาชนจำนวนมาก
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประกัสร์ รอง ผบ.ตร. (มค.) เตรียมรับมือมาตรการผ่อนคลายและได้กำชับสั่งการหน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้อง ประสานงานกับหน่วยร่วมปฏิบัติในพื้นที่ จัดชุดปฏิบัติการออกตรวจสอบสถานประกอบการ แหล่งมั่วสุม หรือสถานที่มีประชาชนแออัดจำนวนมาก ตามกลุ่มพื้นที่จังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พื้นที่ควบคุมสูงสุด พื้นที่ควบคุม ตามที่ ศบค.ได้กำหนด พร้อมให้คำแนะนำกับผู้ประกอบการและประชาชนในมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ปฏิบัติตามมาตราการทาง สาธารณสุข พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ร.บ.ควบคุมโรคฯ และ ประกาศดำสั่งของจังหวัดในพื้นที่ต่างๆ
รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า ผบ.ตร. ขอบคุณและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ทุ่มเท เสียสละ กำลังกาย กำลังใจในการออกตรวจสอบสถานประกอบการแหล่งมั่วสุมที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด- 19 ตามกลุ่มพื้นที่จังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พื้นที่ควบคุมสูงสุด พื้นที่ดวบคุม ตามที่ ศบค. ได้กำหนด ซึ่งยังคงให้ปิดสถานบริการและสถานบันเทิง งดจำหน่ายและดื่มสุราในร้านอาหาร รวมทั้งการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ร.บ.ควบคุมโรคฯ ตามคำสั่ง ประกาศของจังหวัดในพื้นที่ต่างๆ โดยที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติพร้อมหน่วยร่วมปฏิบัติมีการจับกุมดำเนินคดีไปแล้วจำนวนหลายรายในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
ทั้งนี้ ผบ.ตร. ยังได้กำชับ ให้ตำรวจทุกพื้นที่ประสานงานกับหน่วยร่วมปฏิบัติออกตรวจสอบสถานประกอบการ สถานบันเทิงร้านอาหาร แหล่งมั่วสุมที่สุ่มเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อไรรัส และคงมาตรการเข้มในการป้องกันการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองตามช่องทางธรรมชาติ สกัดกั้นการลักลอบเข้ามาพื้นที่ชั้นใน ทำการจับกุมพร้อมขยายผลถึงเครือข่ายที่เกี่ยวข้องและดำเนินคดีให้ถึงที่สุด หากมีการปล่อยปละละเลยทำให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ก็จะพิจารณาความบกพร่องทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาดต่อไป