ผู้บริหาร GMMM ถูก ป.ป.ช.มีมติดำเนินคดีอาญาฐานทุจริตประมูลวิทยุทหาร

          คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) มีมติให้ดำเนินคดีอาญาและเอาผิดทางวินัยกับอดีตเจ้ากรมการทหารสื่อสาร และอดีตผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียง พร้อมทั้งส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีอาญากับผู้บริหารบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ฐานร่วมกันทุจริตในการประกวดราคาคัดเลือกผู้เช่าเวลาผลิตรายการวิทยุของสถานีวิทยุจเรทหารสื่อสาร 1(จส.1 เอฟ.เอ็ม 94.5 เมกะเฮิรตซ์) 
          ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.วันนี้มีมติให้ส่งรายงาน เอกสาร และความเห็นไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อพิจารณาโทษผิดวินัยอย่างร้ายแรงฐานทุจริตต่อหน้าที่และประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง และส่งถึงอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีอาญากับนายทหารที่ถูกกล่าวหาแล้วแต่กรณี ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 92 และมาตรา 97 
          และให้เสนออัยการสูงสุดดำเนินคดีอาญากับกรรมการผู้จัดการบริษัทเอกชนที่เป็นผู้ลงนามในหนังสือของบริษัทที่เสนอราคาค่าสั่งโฆษณาสถานีวิทยุจเรทหารสื่อสาร 1 ถึงเจ้ากรมการทหารสื่อสาร ในความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบมาตรา 86
          เนื่องจากการไต่สวนข้อเท็จจริงของคณะอนุกรรมการฯ พบว่ากองการกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ กรมการทหารสื่อสาร กองทัพบกได้ประกาศประกวดราคาสั่งโฆษณาสถานีวิทยุกระจายเสียงในเครือ จส.จำนวน 7 สถานี เมื่อวันที่ 9 ก.ค.46 ต่อมาวันที่ 23 ก.ย.
46 กองการกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ได้รายงานผลการคัดเลือกถึงเจ้ากรมการทหารสื่อสารว่ามีผู้ยื่นซองประกวดราคา 2 ราย แต่ไม่มีรายชื่อบริษัทดังกล่าว
          แต่ในระหว่างนั้นมีนายทหารที่ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียงได้นำเอกสารไปเปลี่ยนโดยมีชื่อของบริษัทดังกล่าวร่วมยื่นซองเป็นรายที่ 3 และเสนอราคาสั่งโฆษณาสูงกว่ารายเดิม
          ต่อมาบริษัทที่ได้รับการคัดเลือกครั้งแรกได้ร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อกองทัพบก และกองทัพบกมีคำสั่งให้กรมการทหารสื่อสารทำสัญญากับบริษัทที่ได้รับคัดเลือกครั้งแรก แต่บริษัทดังกล่าวไม่ยอมส่งมอบพื้นที่ออกอากาศคืน บริษัทที่ได้รับคัดเลือกครั้งแรกจึงร้องเรียนขอความเป็นธรรมอีก ซึ่งกรมการทหารสื่อสารได้เสนอให้บริษัทที่ได้รับคัดเลือกครั้งแรกได้รับสิทธิในการเป็นผู้จัดรายการร่วมเป็นกรณีพิเศษ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-31 ธ.ค.48
          อนึ่ง บริษัทที่เข้าไปดำเนินรายการวิทยุในช่วงเวลาดังกล่าว คือ บมจ.จีเอ็มเอ็มมีเดีย(GMMM) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ บมจ.จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่(GRAMMY)