ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,174 ราย ประกอบด้วย
- ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 2,392 ราย
- จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 720 ราย และจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 36 ราย
- ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 26 ราย มาจากอินเดีย อินโดนีเซีย โดมินิกัน เมียนมา ประเทศละ 1 ราย โมซัมบิก ซาอุดิอาระเบีย ประเทศละ 2 ราย และกัมพูชา 18 ราย
- มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 51 ราย สูงสุดนับแต่มีการระบาดในประเทศ แยกเป็นเพศชาย 26 ราย เพศหญิง 25 ราย ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ยังมาจาก กทม. 34 ราย ปทุมธานีและสมุทรปราการ จังหวัดละ 3 ราย ชลบุรีและนครปฐม จังหวัดละ 2 ราย นนทบุรี ราชบุรี ยะลา ปราจีนบุรี สงขลา สระแก้ว และสระบุรี จังหวัดละ 1 ราย อายุระหว่าง 29-91 ปี ปัจจัยเสี่ยงมาจากโรคประจำตัว ได้แก่ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจ โรคไต และ โรคมะเร็ง
สำหรับจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศตั้งแต่ต้นปี 63 จนถึงล่าสุดอยู่ที่ 228,539 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้ว 189,777 ราย เพิ่มขึ้น 1,941 ราย ยอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 1,744 ราย
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศบค. กล่าวว่า จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุด 10 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพฯ 956 ราย, สมุทรปราการ 501 ราย, สมุทรสาคร 240 ราย, สงขลา 185 ราย, ชลบุรี 142 ราย, ปัตตานี 120 ราย, ปทุมธานี 93 ราย, ราชบุรี 91 ราย, นราธิวาส 89 ราย และนครปฐม 79 ราย
ในวันนี้มีคลัสเตอร์ใหม่ในหลายจังหวัด ประกอบด้วย
- สมุทรปราการ โรงงานน้ำแข็ง อ.บางเสาธง 17 ราย และที่บริษัทก่อสร้าง อ.เมือง 167 ราย
- สมุทรสาคร โรงงานผลิตยางรถยนต์ อ.กระทุ่มแบน 5 ราย และที่โรงงานอาหารทะเลแปรรูป อ.เมือง 6 ราย
- ปทุมธานี ที่บริษัทผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ อ.หนองแค 22 ราย
- ราชบุรี ที่ค่ายทหาร อ.เมือง 73 ราย
ขณะที่สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ล่าสุดวันนี้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมรวมแล้ว 179,924,986 ราย เสียชีวิต 3,897,835 ราย โดยประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุด อันดับแรก สหรัฐอเมริกา 34,434,803 ราย อันดับ 2 อินเดีย 30,027,850 ราย อันดับ 3 บราซิล 18,056,639 ราย อันดับ 4 ฝรั่งเศส 5,760,002 ราย และอันดับ 5 ตุรกี 5,381,736 ราย โดยประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 76